"ประจิน" รับโครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง-รถไฟฟ้า 3 สายล่าช้ากว่าแผน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 24, 2015 16:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ยอมรับการดำเนินโครงการก่อสร่างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่รับผิดชอบ 2 ส่วนมีความล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ราว 2-3 เดือน ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร จากแผนเดิมที่จะประกวดราคาในเดือน ส.ค.58 แต่เลื่อนไปเป็นเดือน ก.ย.-ธ.ค.2558 และโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีส้ม(ตลิ่งชัน-มีนบุรี), สายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง), สายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) จะล่าช้าไปเป็นปลายปี 58 ถึงต้นปี 59 ส่วนโครงการอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงานปี 58 ยังคงเดินหน้าได้ตามแผนงานเดิม

รมว.คมนาคม กล่าวว่า การดำเนินโครงการที่ล่าช้าออกไปส่งผลต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งจะได้เร่งรัดเรื่องการบริหารงบประมาณ โดยจะลงในรายละเอียดทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นการอนุมัติแผนงานโครงการว่าติดขัดล่าช้าจุดใดบ้าง เรื่องการกำหนดทีโออาร์ล่าช้าตรงไหน การจัดซื้อจัดจ้างล่าช้าตรงไหน โดยนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม จะจัดทีมงานร่วมกับหน่วยงานทำตารางกำหนดรายละเอียดของงานในแต่ละส่วน เพื่อแก้ไขได้ทุกจุด

และเมื่อการดำเนินโครงการล่าช้าออกไปจะกระทบต่อแผนงานที่จะนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะแก้ไขโดยการปรับแผนงานในภาพรวม ซึ่งอาจจะมีแผนสำรองไว้ ดังนั้นทุกโครงการของกระทรวงคมนาคมจะมีการตรวจสอบปัญหาอุปสรรคอยู่ตรงไหน ซึ่งขณะนี้ได้นำโครงการในความรับผิดชอบของ 2 หน่วยงานคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) มาตรวจสอบดูก่อนว่าติดขัดตรงจุดไหน จากนั้นจะเป็นหน่วยอื่นๆ เช่น กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า การท่าเรือ

"กรณีที่บอกว่าแผนงานโครงการล่าช้า โดยพูดถึงแผนงานในปี 2558-2559 ต้องบอกว่า หลายเรื่องไม่ได้มีงบประมาณไว้ก่อน และมีหลายเรื่องที่เห็นว่ามีความจำเป็นจึงได้เร่งขึ้นมาทำก่อน ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ เมื่อยังไม่มีการตั้งงบประมาณของโครงการไว้ก่อน พอจะเริ่มจึงทำได้ในส่วนของ งบศึกษาความเป็นไปได้ งบศึกษาสำรวจออกแบบ ดังนั้นการก่อสร้างจะไปเริ่มได้ในปี 2559 ซึ่งก็ต้องผ่านกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ ศึกษาผลกระทบและตามมาด้วยการเวนคืนที่ดิน การขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อผ่านแล้วก็จะต้องเลือกบริษัทจึงจะก่อสร้างได้ ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่จะต้องแก้ไข ส่วนปี 2559 มั่นใจว่าความสำเร็จในการดำเนินโครงการแทบจะใกล้เคียงกับแผนงาน จะผลกระทบน้อยมากเพราะได้เตรียมการไว้ตั้งแต่ปี 2558แล้ว" พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ