ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่
อัตราเงินเฟ้อติดลบอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ว่า โดยส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะมองว่ามาจากปัจจัยเรื่องของ
ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่องและปัจจัยจากค่าเงินเยนของ
ญี่ปุ่นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ทั้งจีน เกาหลีและไทย ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของทุกประเทศ และเมื่อส่งออกไม่ดี ก็ส่งผลทำให้การนำเข้าสินค้าของประเทศใหญ่ๆลดลงไปด้วย
"จากการวิเคราะห์จากนักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่าปีนี้เศรษฐกิจโลกจะปรับลงอีกสักระยะ และยังบอกไม่ได้ว่าจะกลับมาฟื้นตัวอีกเมื่อไหร่ สิ่งที่ทำได้คือรัฐบาลต้องพยุงตัวเอง ส่วนการช่วยเหลือภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการในการลดดอกเบี้ย เพราะจะทำให้เกิดหนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้น และเชื่อว่าภาคเอกชนทราบดีว่าภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นอย่างไร แต่รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนในระดับรากหญ้ามากกว่า เพราะถือว่าเป็นจุดอ่อนในระบบเศรษฐกิจไทย"รองนายกฯ กล่าว
ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.)นั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดของมาตรการดังกล่าว จึงยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่มองว่ามาตรการในบางเรื่องอาจจะไม่ใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่เป็นมาตรการในระยะยาวมากกว่า
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่ระหว่างสำรวจเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีพื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1.5 ล้านไร่ เป็นเกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทาน ที่มีการปลูกพืชไปแล้วและได้รับผลกระทบจากการส่งน้ำ โดยอยู่ระหว่างการหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นมีแนวคิดว่าจะเป็นการจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรโดยตรง ซึ่งจะชดเชยตามอัตราที่เกษตรกรได้ลงทุนไป
อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/นิศารัตน์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]