กกพ.กำหนดเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าระยะแรก 600 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.59 โดยในระยะแรกจะเน้นการรับซื้อจากพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคกลางเป็นหลัก ขณะที่ยังไม่มีการรับซื้อไฟฟ้าในเขตภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลือจะเป็นการรับซื้อไฟฟ้าระยะสอง จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61- 30 มิ.ย.61
ทั้งนี้ กำหนดเปิดให้ยื่นขอเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1-7 พ.ย.และคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ หลังจากที่ สำนักงาน กกพ.จะเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างดังกล่าว โดยให้ส่งความเห็นมาได้ตั้งแต่วันที่ 25-31 ส.ค.58 เวลา 12.00 น.
ร่างประกาศดังกล่าว กำหนดว่า การประกาศรับซื้อไฟฟ้าจะออกประกาศเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าสำหรับพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านระบบสายส่งไฟฟ้า โดยกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.59 และระยะที่ 2 จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าสำหรับพื้นที่ที่เหลือในภายหลัง โดยมีกำหนด SCOD ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.61-30 มิ.ย.61
เป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ของระยะที่ 1 ได้แก่ พื้นที่ในเขตการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 200 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จำนวน 400 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 5 เมกะวัตต์ ,ภาคตะวันออก 98 เมกะวัตต์ ,ภาคตะวันตก 159 เมกะวัตต์ และภาคกลาง 138 เมกะวัตต์
สำหรับกำหนดเวลาในการรับซื้อไฟฟ้า ประกอบด้วย การยื่นขอเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1-7 พ.ย.58 ระหว่างเวลา 9.00-16.00 น., ปิดรับเอกสารประกอบเพิ่มเติม วันที่ 20 พ.ย.58, ประกาศรายชื่อโครงการที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติ วันที่ 11 ธ.ค.58, คัดเลือกโดยวิธีการจับสลาก และแสดงผลการคัดเลือกวันที่ 15 ธ.ค.58 จากนั้น กกพ.จะประกาศรายชื่อเจ้าของโครงการที่ผ่านการพิจารณาเป็นทางการ และสำนักงานกกพ.จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (คณะกรรมการบริหาร) เพื่อทราบ ในวันที่ 24 ธ.ค.58
สถานที่รับคำขอและจับสลากเข้าร่วมโครงการนั้น ผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการ สามารถขอรับแบบคำขอเข้าร่วมโครงการผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานกกพ. หรือ สำนักงาน กกพ.ประจำเขต 1-13 หรือสำนักงาน กกพ. ส่วนสถานที่จับสลากเข้าร่วมโครงการนั้น ให้ผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการทำการจับสลากตามกลุ่มหน่วยราชการและกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร ในวันที่ 15 ธ.ค.58 เวลา 9.00-15.00 น. ซึ่งหากผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการไม่มาจับสลากภายในวันและเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าสละสิทธิ์
ขณะที่ขั้นตอนการคัดเลือกนั้น ขั้นตอนที่หนึ่ง คัดเลือกโครงการโดยพิจารณาจาก ความครบถ้วนของเอกสาร โดยเฉพาะที่ดินจัดตั้งโครงการต้องอยู่ในเขตพื้นที่ตามประกาศ ข้อมูลศักยภาพระบบไฟฟ้า ,ความพร้อมของเงินทุน และความพร้อมของวงเงินสินเชื่อประเภทต่างๆ
ขั้นตอนที่สองจะคัดเลือกโครงการ โดยผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการทุกโครงการจับสลากเพื่อเรียงลำดับหมายเลขของกลุ่มหน่วยงานราชการและกลุ่มสหกรณ์ภาคการเกษตร โดยการจับสลากตามประกาศข้อมูลศักยภาพระบบไฟฟ้า ซึ่งกกพ.จะจับสลากเพื่อคัดเลือกกลุ่มที่ได้รับการพิจารณาก่อนหลัง โดยผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการที่ได้ลำดับการจับสลากก่อนจะได้รับการคัดเลือกก่อน โดยพิจาณาตามเงื่อนไขศักยภาพของระบบไฟฟ้าตามลำดับ ได้แก่ ไม่เกินศักยภาพของ Feeder และไม่เกินจำนวนโครงการที่เชื่อมต่อกับแต่ละ Feeder และไม่เกินศักยภาพของหม้อแปลง และไม่เกินศักยภาพของระบบส่งไฟฟ้า
ขั้นตอนที่สาม การคัดเลือกจะสิ้นสุดลงเมื่อปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวมทุกเขตพื้นที่ครบ 800 เมกะวัตต์ หรือพิจารณาครบทุกโครงการแล้ว
กกพ.กำหนดอีกว่าผู้ที่ยื่นเข้าร่วมโครงการต้องมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ซึ่งหน่วยงานราชการสามารถยื่นเข้าร่วมโครงการได้ไม่เกิน 1 โครงการ ต่อ 1 ส่วนงาน ต่อ 1 พื้นที่ดำเนินการเท่านั้น ขณะที่กรณีที่เจ้าของโครงการเป็นสหกรณ์ภาคการเกษตร สามารถยื่นเข้าร่วมโครงการได้ 1 โครงการต่อ 1 สหกรณ์ภาคการเกษตร