กกพ.ขานรับนโยบายรมว.พลังงานคนใหม่ มุ่งเน้นกำกับกิจการพลังงาน 3 ด้าน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 9, 2015 16:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวในโอกาสที่พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน มามอบนโยบายว่า ทางสำนักงาน กกพ. พร้อมรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558 - 2579 (PDP 2015) โครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ ปี 2558 – 2560 ที่จะประกาศใช้ และการกำหนดหลักเกณฑ์ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร เพื่อมุ่งสร้างเสถียรภาพต่อผู้ใช้พลังงาน เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส บริหารจัดการกิจการพลังงานเพื่อความมั่นคง เพิ่มการแข่งขันของกิจการพลังงาน พร้อมสร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

“สำหรับภาพรวมการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การกำกับดูแลกิจการพลังงาน ในปี 58 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ยังคงให้ความสำคัญในทิศทางการกำกับ 3 ด้านหลัก คือ ด้านการกำกับกิจการพลังงานอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ ด้านการบริหารจัดการเพื่อความมั่นคงและเพิ่มการแข่งขันของกิจการพลังงาน และด้านสุดท้ายการสร้างการยอมรับและการมีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการพลังงานจากกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน" นายวีระพล กล่าว

โดย กกพ. มีภารกิจสำคัญเร่งด่วน ได้แก่ การจัดทำโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ ปี 2558 – 2560 (ประกาศใช้ภายในปีนี้) โดยจะพัฒนาให้มีกลไกควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ค่าไฟฟ้าสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง มีความโปร่งใสและชัดเจนยิ่งขึ้น โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร (ประกาศรายชื่อโครงการที่ผ่านการพิจารณาภายในเดือน ธ.ค. 58) การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT ด้วยวิธีการประมูลแข่งขันด้านราคา (Competitive Bidding) (เริ่มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา) การออกประมวลหลักการปฏิบัติ (CoP) โรงไฟฟ้าขยะ (ประกาศใช้ภายในปี 59) และมาตรฐานการให้บริการผู้ใช้ไฟฟ้า (ออกมาตรฐานให้ครบทุกประเภทภายในปี 59)

รวมทั้งการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่มีความเร่งด่วนและเพื่อให้ระบบพลังงานมีความมั่นคง ได้แก่ การปรับปรุงกระบวนการออกใบอนุญาตให้มีความรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่เป็นปัญหาอุปสรรค โดยได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมปรับแนวทางการอนุญาต รง.4 โรงไฟฟ้าฯ ให้เป็นเอกภาพมากขึ้น การให้บริการออกใบอนุญาตแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ หรือ One Stop Service ซึ่งอำนวยความสะดวกต่อผู้ประกอบการ รวมถึงการลดข้อจำกัดที่เป็นปัญหาของการเสริมกำลังการผลิตไฟฟ้าในภาคประชาชน เช่น การติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน อาคาร โรงงาน

“นอกจากนี้ กลไกการส่งเสริมการแข่งขันกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศก็เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของ กกพ. โดยได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการสถานี LNG แก่บุคคลที่สามและการเชื่อมต่อ (Third Party Access Code: TPA Code) ขึ้น เพื่อมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติและมีการบริการของระบบโครงข่ายพลังงานอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ. เป็นต้น รวมถึงการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน วางรากฐานการกำกับดูแลส่วนภูมิภาค ได้แก่ การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ปัจจุบันมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าทุกประเภท รวม 282 กองทุน และผ่านกลไกคณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต (คพข.) รวม 143 คน ใน 13 เขตทั่วประเทศ สำหรับในปี 2558 นี้ กกพ. เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินกองทุน ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ในการพัฒนาพลังงาน เพื่อเพิ่มความมีส่วนร่วมทางพลังงานมากยิ่งขึ้นต่อไป" นายวีระพล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ