นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 36.24/26 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.09/10 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อวานมี Flow ซื้อเข้ามาค่อนข้างเยอะและเรื่อยๆ ทำให้หลังจากเงินบาทแข็งค่าลงไปได้แป๊บเดียวก็ขึ้นมาใหม่...วันนี้มองว่าด้านบนแถวๆ High เดิม 36.30/35 บาท/ดอลลาร์ น่าจะยังเป็นแนวต้านสำคัญ"นักบริหารเงิน กล่าว
เบื้องต้นมองกรอบเงินบาทวันนี้ระหว่าง 36.10-36.30 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.1925 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(9 ก.ย.) อยู่ที่ 1.76033% ส่วน THAI BAHT FIX 6M(9 ก.ย.) อยู่ที่ 1.74619%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.33 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 120.50/53 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1215 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1177/1180 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาทต่อ/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.0020 บาท/ดอลลาร์
- นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย แอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องจนอ่อนค่าที่สุดในรอบ 6 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552 เกิดจากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ และการส่งออกที่ลดลงมากจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน มองว่าจะเป็น ปัจจัยที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในประเทศให้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ศูนย์วิจัยทองคำเผยยอดขายทองรูปพรรณเพิ่มต่อเนื่องปีที่ 2 อาจไม่เห็นทองแตะ 1.65 หมื่นบาท เหตุสงครามค่าเงิน ศก.โลกแย่ ประเทศเกิดใหม่แห่ตุน
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอส เอ็มอีของรัฐบาลจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นฐานรากของภาคธุรกิจมากขึ้นในอนาคต รวมทั้งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่อยู่ในระบบ 6-7 แสนราย เข้าสู่ระบบการเสียภาษีที่ถูกต้องมากขึ้น
- นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีถือได้ว่าเป็นช่วงฤดูกาลขาย (ไฮซีซั่น) ของตลาดรถยนต์ รวมถึงตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปริมาณการขายมากกว่าราว 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 5.75 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2543 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
- มหาวิทยาลัยเซียะเหมินเปิดเผยรายงานระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 7.1% ในปีนี้ ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวอิงจากแบบจำลองเศรษฐกิจมหภาครายไตรมาสของจีน (CQMM) ซึ่งเป็นโครงการวิจัยของมหาวิทยาลัยเซียะเหมิน
- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดแห่งอินโดนีเซีย ทำการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ในวันนี้ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ มาตรการดังกล่าว รวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบ ลดขั้นตอนทางราชการ เพิ่มแรงจูงใจด้านภาษี และกระตุ้นค่าเงินรูเปียห์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนมองว่าข้อมูลตำแหน่งงานว่างในสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของทางการจีนจะทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยปิดต่ำกว่าระดับ 45 ดอลลาร์ หลังจากรัฐบาลสหรัฐได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสำหรับปีนี้และปีหน้า ขณะที่ตลาดยังคงมีความวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันที่มีจำนวนมากเกินไปในตลาดโลก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดรูดลง 1.79 ดอลลาร์ แตะที่ 44.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดปรับลง 1.94 ดอลลาร์ ที่ 47.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูความเป็นไปได้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดดิ่งลง 19.00 ดอลลาร์ ที่ 1,102.00 ดอลลาร์/ออนซ์