นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 36.02 บาท/ดอลลาร์ ตามแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออกและนักลงทุนต่างประเทศ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.89-36.04 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงบ่ายบาทปรับตัวแข็งค่าหลังมีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก และนักลงทุนต่างชาติ" นักบริหารเงิน กล่าว
ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูวันพรุ่งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% เท่าเดิม
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 35.85-36.00 บาท/ดอลลาร์
"มติ กนง.ไม่น่าจะมีผลต่อค่าเงินบาท ยกเว้นจะมี surprise" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.62 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.43 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1309 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1310 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,370.65 จุด ลดลง 6.50 จุด, -0.47% มูลค่าซื้อขาย 36,324.64 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 876.88 ล้านบาท(SET+MAI)
- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้อย่างใกล้ชิด โดยนักวิเคราะห์ได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปในประเด็นที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีหรือไม่
- ที่ประชุม รมว.คลังเอเปค หารือถึงแนวโน้มด้านเศรษฐกิจและการเงินโลกและตกลงที่จะร่วมกันสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสมดุลในภูมิภาค โดยเห็นว่าภูมิภาคเอเปคจะเป็นเครื่องยนต์หลักที่ผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ดังนั้นจึงต้องร่วมกันเสริมสร้างเสถียรภาพเพื่อรองรับความผันผวนของตลาดการเงิน โดยจะให้ความสำคัญกับการใช้นโยบายการคลังที่ยืดหยุ่น หลีกเลี่ยงการแข่งขันเพื่อลดค่าเงินและการกีดกันทางการค้าในทุกรูปแบบ และเร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเพื่อยกระดับศักยภาพในการเจริญเติบโต
- พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เสนอ เพื่อให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน สามารถจูงใจนักลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้
- นายชวลิต พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพลังงาน คาดว่าราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศช่วงจากนี้จนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะอยู่ในระดับทรงตัว และมีโอกาสปรับลดลง ทั้งในกลุ่มราคาน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซลซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในภาคขนส่งและต่อภาคอุตสาหกรรม โดยน่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจ
- นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารมั่นใจสินเชื่อรายย่อยปีนี้อยู่ที่ 5-7% แม้ในช่วง 7 เดือนแรกจะเติบโตเพียง 2% โดยมีสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท เชื่อว่าครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 4/58 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะทำให้ภาพรวมการจับจ่ายใช้สอยในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมวันนี้ ขณะที่ปรับลดการประเมินเกี่ยวกับเศรษฐกิจต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เผยดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ในเยอรมนีที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ร่วงลงแตะ 12.1 ในเดือน ก.ย.จากระดับ 25.0 ในเดือน ส.ค. โดยปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแล้ว และตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 10 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะจีน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลดลง 5 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,233 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,108.35 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 0.54 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง