พาณิชย์เผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ส.ค.58 หด 6%เอกชนชะลอดูความชัดเจนหลังเปลี่ยนทีมศก.ใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 18, 2015 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือน ส.ค.58 มีผู้มายื่คำขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ 4,912 ราย ลดลง 6% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 13,240 ล้านบาท ลดลง 52% เทียบกับเดือน ส.ค.57 ขณะที่ส่งยอดการจดทะเบียนจัดตั้งช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ส.ค.58) มีจำนวนทั้งสิ้น 41,857 ราย เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 538 ราย อสังหาริมทรัพย์ 287 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 135 ราย ขายส่งเครื่องจักร 107 ราย และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 106 ราย

สาเหตุที่ทำให้ยอดการทะเบียนจัดตั้งลดลงเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ทำให้ภาคเอกชนรอดูสถานการณ์ จึงชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจน อีกทั้งมีการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวอย่างเข้มงวด โดยต้องได้รับใบอนุญาตจากรมการท่องเที่ยวก่อนจึงจะจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ ทำให้เดือนนี้ไม่มีธุรกิจนำเที่ยวขอจดทะเบียนเลย จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขอจดถึง 101 ราย แต่เชื่อว่าการจดทะเบียนจะกลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป หลังจากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก(เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นมาตรการที่กรมฯ ร่วมดำเนินการด้วย คาดว่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใน 1-2 สัปดาห์

ส่วนยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเดือน ส.ค.58 มีจำนวน 1,542 ราย เพิ่มขึ้น 25% เทียบกับเดือน ส.ค.57 โดยมีทุนจดทะเบียนเลิก 5,520 ล้านบาท ลดลง 14% ส่งผลให้ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวน 9,984 ราย เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ขณะที่ยอดการจดทะเบียนเลิกกิจการเพิ่มขึ้นนั้นไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะมีธุรกิจเกิดขึ้นก็ต้องมีธุรกิจเลิกกิจการ ซึ่งจากการตรวจสอบสาเหตุพบว่าเป็นการเลิกกิจการของธุรกิจค้าสลากในเดือนนี้ 183 ราย จากการออกมาตรการดูแลธุรกิจค้าสลากตั้งแต่เดือนก.ย.57 ส่วนในช่วง 8 เดือนปีนี้ มีธุรกิจค้าสลากจดเลิกกิจการแล้ว 1,800 ราย

"กรมฯยังยืนยันว่ายอดการจดทะเบียนในปีนี้จะได้ 60,000-65,000 ราย โดยไตรมาส 3 น่าจะมีธุรกิจจดเพิ่มอีก 15,000 ราย ซึ่งแนวโน้มน่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี และการเร่งรัดเบิกจ่ายของรัฐบาลในโครงการต่างๆ เช่น โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับ คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในวงเงิน 136,000 ล้านบาท" น.ส.ผ่องนพรรณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ