เงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่า แม้ระหว่างวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวไม่มากนักก็ตาม เพราะตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวออกมาดี ก็จะส่งผลให้ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
"บาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ ตลาดรอดูตัวเลขสหรัฐที่จะออกมาปลายสัปดาห์ ถ้าดีขึ้น ดอลลาร์ก็น่าจะแข็งค่าต่อ" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.40-36.50 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 36.4413 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.69 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.58/61 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1225/1228 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1260/1263 ดอลลาร์/ยูโร
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า เดือนส.ค.58 เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้การส่งออกสินค้าของไทยยังคงหดตัวต่อเนื่อง สำหรับการใช้จ่ายผ่านการบริโภคภาคเอกชนยังคงชะลอตัว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มมีสัญญาณทรงตัว อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของรัฐบาล และการท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นแรงสนับสนุนสำคัญ นอกจากนี้ พื้นฐานเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งจากอัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง
- ผอ.สศค. กล่าวว่า การจะให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปีนี้เติบโตได้ 3% ตามเป้านั้น ในครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะต้องเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% หลังจากที่ครึ่งปีแรกเติบโตได้แล้ว 2.9% นอกจากนี้ ต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ว่ามูลค่าการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือจะต้องทำได้ไม่ต่ำกว่า 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จึงจะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ติดลบไม่มากไปกว่าที่คาดไว้ 4%
- สศค. เผยช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 (ต.ค.57 - ส.ค.58) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,999,284 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 113,187 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 (แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.1) โดยการจัดเก็บภาษีที่ส่งผลกระทบต่อรายได้รัฐบาลที่สำคัญได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคลได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมเป็นผลจากมูลค่านำเข้าที่หดตัวและราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี การจัดเก็บภาษีน้ำมัน การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าเป้าหมาย
- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.ได้กำหนดวันจัดงาน Thailand Focus 2015 ในวันที่ 2-4 ธ.ค.58 โดยคาดหวังจะมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้าร่วมงานราว 100 ราย
- เจ้าหน้าที่หลายรายจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปีมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงถ้อยแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด
- ธนาคารกลางอินเดีย มีมติลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้นลง 0.50% ในการประชุมวันนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ในขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า รัฐบาลจะปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนสำหรับบริษัทต่างชาติ โดยจีนจะยกเลิกข้อจำกัดด้านการลงทุนในหลายภาคธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้พบว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนต่างชาติในจีนเพิ่มขึ้น 9% แตะ 8.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มที่สดใส