“ตัวถ่วงสำคัญตอนนี้อยู่ที่น้ำมัน เพราะเดิมเราคาดว่าน้ำมันน่าจะเริ่มปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่ปรากฏว่ามันไม่ขึ้นในช่วงนี้ และเท่าที่ดูราคาตลาดโลกแนวโน้มมันกลับทำท่าจะลดลงไปอีกด้วยซ้ำ"นายสมเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ การปรับเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อใหม่ดังกล่าวขึ้นอยู่กับสมมติฐานใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน กล่าวคือ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP)ในปีนี้อยู่ที่ 2.5-3.5% ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อยู่ที่ 48-58 ดอลลาร์/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 33-35 บาท/ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี หากอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ติดลบตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะถือว่าเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 52 ที่อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่ -0.9%
นายสมเกียรติ ยืนยันว่า แม้ในปีนี้เงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่องมาถึง 9 เดือนก็ตาม แต่สถานการณ์ในขณะนี้ไม่ถือว่าเป็นการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากในดัชนีราคาผู้บริโภคหากหักตัวเลขของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาอาหารสดออกไปแล้วดัชนีฯ ก็ยังคงเป็นบวก ประกอบกับจากการติดตามข้อมูลของกระทรวงการคลังในส่วนของตัวเลขการจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) พบว่ายังมีแนวโน้มการจัดเก็บที่สูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น