เงินบาทปิด 35.34/39 แข็งค่าจากช่วงเช้าหลังมี Flowไหลเข้า มองกรอบพรุ่งนี้ 35.20-35.50

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 12, 2015 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.34/39บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.57 บาท/ดอลลาร์

เย็นนี้เงินบาทยังปรับตัวแข็งค่าต่อจากช่วงเช้า เนื่องจากยังมี Flow ไหลเข้า ประกอบกับวันนี้ volume ค่อนข้างเบาบาง เพราะตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ มองการเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20 - 35.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.10 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.15 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1380 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1369 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,412.49 เพิ่มขึ้น 1.16 จุด (+0.08%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,115 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 793.11 ลบ.(SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะนำเสนอมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันพรุ่งนี้(13 ต.ค.)
  • นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
คาดว่าจะมีเม็ดเงินที่เกิดจากการประมูลบนคลื่นความถี่ 1800 MHz และ คลื่นความถี่ 900 MHz ไม่น้อยกว่า 7.3 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องนำส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป และน่าจะมีรายได้ที่เกิดจากการลงทุนของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตทั้ง 4 ราย รวมประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแน่นอน
  • ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าหนี้สูงที่สุดตั้งแต่หลังวิกฤติการณ์เศรษฐกิจปี 2540 จะส่งผลให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นและสะท้อนถึงความเสี่ยงในด้านผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์จากสภาวะแวดล้อมการดำเนินงานที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่ม บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี(SSI) ต่อคุณภาพสินทรัพย์ของระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ และอาจจะยังไม่ได้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ชัดว่าคุณภาพสินทรัพย์อาจปรับตัวแย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 -3 ไตรมาสข้างหน้า

  • นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ก่อนที่จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในสิ้น เดือน ต.ค.นี้ ก็จะร่วมกับผู้บริหารของ ตลท.เข้าหารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)คนใหม่เพื่อผลักดันการซื้อขายหลักทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปของสกุลเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นสกุลเงินดอลลาร์และหยวนก่อน
  • กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า การรุกขยายเส้นทางบินในจีนของสายการบินต่าง ๆ ของไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และจะเพิ่มเติมอีกในปี 2559 เพื่อทดแทนเส้นทางญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา ICAO จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนมีความสำคัญต่อไทยเพิ่มขึ้น
  • นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยว่า เฟดมีท่าทีที่ระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณในต่างประเทศ และผลกระทบต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่
  • นายโหลว จี้เหว่ย รมว.คลังจีน กล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในภาวะซบเซา จึงยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมมองว่าสหรัฐควรตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีมากขึ้นต่อทั่วโลก เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินระดับโลก
  • นายโมฮัมหมัด อัล ซาดา รมว.พลังงานกาตาร์ ระบุว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่ได้ปรับตัวลงถึงจุดต่ำสุด และมีสัญญาณของการฟื้นตัวของราคาในช่วงปี 2559 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของอุปทานน้ำมันดิบกลุ่มประเทศนอกกลุ่มโอเปคนั้น ชะลอตัวลงอย่างมากในปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะทรงตัวหรืออ่อนตัวลงได้อีกในช่วงปีหน้า
  • นายหม่า คุนเผิง นักวิเคราะห์จากซิโนลิงค์ ซิเคียวริตีส์ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีน เพื่อขยายโครงการนำร่องด้านการปล่อยกู้นั้น ไม่ควรที่จะถูกมองว่าเป็นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเวอร์ชั่นของจีน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่สื่อบางรายระบุว่าความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของธนาคารกลางจีน เป็นมาตรการ QE ในรูปแบบของจีน และอาจจะนำไปสู่การอัดฉีดเม็ดเงิน 7 ล้านล้านหยวนเข้าสู่เศรษฐกิจ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศว่า ธนาคารจะขยายโครงการนำร่องเกี่ยวกับการปล่อยกู้โดยมีสินทรัพย์ค้ำประกันให้แก่เทศบาล และมณฑลต่างๆ 9 แห่ง มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้การใช้สินทรัพย์ในด้านสินเชื่อนมีประสิทธิภาพมากขึ้น และความเคลื่อนไหวนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจีนในระยะใกล้

  • คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) จะจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับแผนการพัฒนาประเทศระยะเวลา 5 ปี ฉบับที่ 13 ในวันที่ 26-29 ตุลาคม 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ