เงินบาทเปิด 35.65/67 แนวโน้มอ่อนค่า มองกรอบ 35.30-35.70

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 14, 2015 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.65/67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.57 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าตามสกุลเงินหยวน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศออกมาล่าสุดไม่ค่อยดีนัก ประกอบกับมีการเทขายสกุลเงินเอเชียบางส่วน ทั้งนี้มองว่าเงินบาทวันนี้ยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อ

"บาทอ่อนค่าไปตามเงินหยวน ที่ตัวเลขเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ประกอบกับมีการขายทิ้งสกุลเงินเอเชียบางส่วนด้วย" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.30-35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.58/60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.66 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1388/1390 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1384 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.515 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ร่วงลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.4% แตะ 132.35 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. และ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(13 ต.ค.) ขณะที่กระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มลดน้อยลง ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกหลังจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ
  • สำนักงานศุลกากรของจีน เปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนก.ย.ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 1.3 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ร่วงลง 6.1% ในเดือนส.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนก.ย.ร่วงลง 17.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.24 แสนล้านหยวน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงกว่าเดือนส.ค.ที่ลดลง 14.3%

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบทั่วโลกนั้น ได้สกัดคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ และกดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

  • นางเลล เบรนาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาเตือนว่าแนวโน้มเงินฝืดทั่วโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อสหรัฐมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และระบุว่าเฟดควรรอดูสถานการณ์จนกว่าจะมีความชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น พร้อมมองว่าแม้อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดี แต่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงถ่วงการส่งออกและเงินเฟ้อของสหรัฐ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่างๆจากต่างประเทศมีแนวโน้มจะส่งผลให้มีแรงกดดันในช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
  • นักลงทุนต่างจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27-28 ต.ค.นี้ ว่าเฟดจะตัดสินใจหรือส่งสัญญาณอย่างไรเกี่ยวกับการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางมุมมองที่แตกต่างกันของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในประเด็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการคุมเข้มนโยบายการเงิน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลกจะยังคงประสบกับภาวะน้ำมันล้นตลาดจนถึงปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 46.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 62 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 49.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนยังช่วยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,165.40 ดอลลาร์/ออนซ์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ