สำหรับวาระการประชุมจะมีการติดตามสถานการณ์ ราคายางพารา และ ภายหลังการประกาศใช้ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย รวมทั้งรับทราบรายงานการยุติโครงการปลูกยางพาราแห่งใหม่ ระยะที่ 3 รวมทั้งจะมีการพิจารณา การปรับปรุงองค์ประกอบ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ และพิจารณาผลการดำเนินโครงการพัฒนายางพาราทั้งระบบ รวมทั้งแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ไม่เฉพาะยางพารา แต่รวมถึง ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง สับปะรด แต่ต้องคำนึงถึง ปัจจัยแวดล้อมประกอบ นอกเหนือจาก เรื่องราคาเพียงอย่างเดียว
โดยปัจจุบัน ส่วนใหญ่ยางพาราจะส่งออกไปขายยังต่างประเทศ แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่พร้อมที่จะรับซื้อได้เท่าเดิมจึงต้องปรับแนวทางให้หันกลับมาใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าในการจัดตั้งโรงงานยางพาราเต็มรูปแบบจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งแม้ตนเองจะไม่ได้ทำอาชีพปลูกยางพารา แต่หวังว่าแนวทางที่วางไว้จะเป็นแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนได้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอบคุณภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และเกษตรกรที่มาร่วมประชุมในวันนี้ ซึ่งทราบข่าวดีว่าทุกฝ่าย ได้ทำความเข้าใจระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว