เงินบาทปิด 35.50/53 รอติดตามถ้อยแถลงเฟดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 26, 2015 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.50/53 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.43-35.62 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 27-28 ต.ค.นี้ ว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดรอบนี้จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน

"ตลาดคาดว่าประชุมเฟดรอบนี้ แนวโน้มน่าจะคงดอกเบี้ยไว้ก่อน แต่ต้องรอฟัง comment ของประธานเฟดถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในอนาคตด้วย ทำให้ตอนนี้นักลงทุนคงระมัดระวังการซื้อขายไว้ก่อน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.40 - 35.60 บาท/ดอลลาร์ แต่หากบาทอ่อนค่าไปมากกว่านี้ ก็อาจจะมีการขายดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ได้

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.21/25 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 121.20 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1020/1040 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,424.16 เพิ่มขึ้น 8.02 จุด (+0.57%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 45,174 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,211.30 ลบ.(SET+MAI)
  • นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างมีเสถียรภาพ แม้ค่าเงินยูโรอ่อนและจีนมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลาต่ำกว่า 1 ปีลง ส่วนสัปดาห์นี้ตลาดยังคงติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม คาดว่า โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ 19 โครงการวงเงิน 1.77 ล้านบาท จะเริ่มงานก่อสร้างได้ในกลางปี 59 จะช่วยให้การขยายตัวของเศรษฐกิจ(GDP) ในปีหน้าอีกประมาณ 1.5% โดยมาจากการลงทุนภาครัฐ 1% และจากภาคเอกชนอีก 0.5% ทำให้ GDPในปี 59 อยู่ที่ 3-4%
  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน ก.ย.58 โดยการส่งออกมีมูลค่า 18,816 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 5.51% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 16,022 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 26.20% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,794 ล้านดอลล์ ซึ่งการส่งออกยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ หากทำได้เฉลี่ยเดือนละ 19,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป ก็จะทำให้การส่งออกปีนี้ติดลบน้อยลงมาอยู่ที่ -3.5 ถึง -4% ซึ่งน้อยกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประเมินไว้ว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ -5%
  • นายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจของเฟดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใดนั้น เฟดจะพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงเป็นปัจจัยสำคัญ พร้อมระบุว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน กำลังถูกเรียกร้องให้ทำในสิ่งที่ยากต่อการตัดสินใจ และการตัดสินใจในครั้งนี้จะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ต.ค.นี้
  • ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเริ่มเปิดฉากการประชุมในวันนี้ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีนั้น จะกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้าเอาไว้ที่กรอบ 6.5-7.0% ทั้งนี้ระยะเวลา 5 ปีจนถึงปี 2563 ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษครั้งแรก โดยจีนตั้งเป้าว่าจะผลักดันตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า รวมทั้งเพิ่มรายได้ของประชาชนในเขตเมืองและพื้นที่ห่างไกลขึ้นเป็น 2 เท่าภายในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2553
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 80 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,760 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,165.44 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 8.66 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
  • นายเฟธ ไบรอล ประธานบริหารสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยว่า การลงทุนในโครงการน้ำมันใหม่ๆ มีแนวโน้มจะชะลอตัวลงต่อไปในปี 2559 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความระมัดระวัง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ตกต่ำต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและภาวะอุปทานล้นตลาด

ขณะที่การลงทุนในโครงการน้ำมันทั่วโลกในปี 2558 ได้หดตัวลงมากกว่า 20% และแนวโน้มดังกล่าวจะยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า รวมทั้งราคาน้ำมันที่คาดว่าจะยังคงอ่อนแรงลงจนถึงกลางปี 2559


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ