ทั้งนี้ รัฐบาลเองก็จะพยายามดูแลเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้นอีกทางหนึ่ง และจะได้มีเงินไว้เพื่อการออมมากขึ้น ซึ่งการรู้จักเก็บออมเงินจะเกิดคุณค่ามากกว่าการที่จะรอรับความช่วยเหลือหรือรอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ส่วนประชาชนบางส่วนที่มีการเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาล เช่น การขอให้เพิ่มเงินอุดหนุนลงไปในแต่ละกองทุนให้มากขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอให้ประชาชนคำนึงถึงรายได้ของรัฐที่จะเข้ามาด้วย เพราะการจัดเก็บภาษีในบางประเภทนั้นรัฐบาลก็ได้มีการปรับลดลงให้แล้ว เช่น กรณีของภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ที่ได้ขยายเวลาการปรับลดภาษีจากเดิมที่จะต้องปรับเพิ่มขึ้นจาก 7% ตั้งแต่ ต.ค.นี้ออกไปก่อน อย่างไรก็ดี เมื่อประชาชนมีรายได้ที่ดีขึ้นแล้ว ก็จะต้องไม่ลืมเรื่องการจ่ายภาษีด้วย