แนวโน้มเงินบาทวันนี้ยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ต่อ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี วันนี้ต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์, ประมาณการเบื้องต้น GDP ไตรมาส 3/2558 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย
"บาทวันนี้มีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก หลังจากเมื่อคืนเฟดมีมติคงดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์แข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.65/70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 120.37/41 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.0917/0920 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.1052/1055 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.502 บาท/ดอลลาร์
- รายงานความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business 2016) ที่จัดทำโดยกลุ่มธนาคารโลกพบว่าประเทศไทยได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจตลอดปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้คงอยู่ใน 50 ประเทศแรกที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจทั่วโลก และติดอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
- สสว.อัดงบ 2.4 พันล้านบาท หนุนเอสเอ็มอี 3 หมื่นราย ตั้งกองทุนฟื้นฟู 1 พันล้านบาท ปล่อยกู้ปลอดดอกเบี้ยระยะยาว หวังสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ด้านผู้ประกอบการหวั่นแบงก์เข้มเงื่อนไขปล่อยสินเชื่อ รายเล็กเข้าไม่ถึงแหล่งเงิน
- ก.พลังงาน วอนประชาชนใช้น้ำมันอย่างประหยัด เหตุยอดการใช้น้ำมันภาคขนส่ง 8 เดือนแรกพุ่งสูงขึ้น 10-21 % จากราคาน้ำมันขายปลีกที่ลดต่ำ หวั่นต้องนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้นปลายปี เตรียมจูงใจรถยนต์รุ่นใหม่หันมาใช้แก๊สโซฮอล์ E20-E85 เพิ่มขึ้น
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการเร่งรัดการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคมซึ่งโครงการส่วนใหญ่อยู่ในขั้นตอนที่มีความพร้อมที่จะเริ่มก่อสร้างได้ แต่มีกระบวนการขั้นตอนต่างๆ ตามระบบราชการที่อาจทำให้การเริ่มต้นโครงการมีความล่าช้า ดังนั้นหากมีความจำเป็นนายกรัฐมนตรีก็พร้อมที่จะใช้อำนาจพิเศษ ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เพื่อให้การเดินหน้าโครงการรวดเร็วขึ้น และเริ่มต้นลงทุนได้ภายในปีนี้
- กรมสรรพาสามิตได้หารือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เพื่อทบทวนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมใหม่ เพื่อให้รัฐมีรายได้เพิ่ม อย่างไรก็ตามแนวทางการจัดเก็บจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอมและจัดเก็บในอัตราที่เหมาะสม เพื่อมิให้ผู้ประกอบการผลักภาระภาษีนั้นให้ประชาชนที่แฝงไปในค่าบริการมือถือ
- นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2558 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะนำคณะภาครัฐและภาคธุรกิจ 50 ราย เช่น กลุ่มก่อสร้างกลุ่มอาหาร กลุ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานรวมถึงสมาคมธนาคารไทย สมาคมโลจิสติกส์ สมาคมประกันวินาศภัย เป็นต้น เดินทางไปเยือนอิหร่าน เพื่อพบปะหารือกับนักธุรกิจ และภาครัฐของอิหร่าน เพื่อเป็นการหาลู่ทางบุกเจาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ขยายธุรกิจและเพิ่มการลงทุนของไทยในต่างประเทศ
- นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ตั้งเป้า 2–3 ปีข้างหน้า ไทยกลายเป็นศูนย์กลางดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคอาเซียน เดินหน้าสู่ดิจิตอลไทยแลนด์ เตรียมประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจดิจิตอลเดือน พ.ย. “เตรียมกล่อมกูเกิล-ยูทูบ” ลงทุนในไทย ขณะที่เอกชนขานรับนโยบายหวังต่อยอดธุรกิจใหม่
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป พร้อมส่งสัญญาณการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค.
- แถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า การประชุมในเดือนธ.ค.จะเป็นเวลาเหมาะสมที่เฟดจะพิจารณาว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ โดยในการตัดสินใจว่าเป็นการเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น เฟดจะประเมินความคืบหน้าทั้งที่เกิดขึ้นจริง และที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ต่อการบรรลุเป้าหมายของการจ้างงานที่ระดับสูงสุด และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(28 ต.ค.) หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณถึงพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในสิ้นปีนี้
- นักวิเคราะห์ มองว่า การที่เฟดระบุชัดเจนถึงการประชุมในเดือนธ.ค.เป็นสิ่งที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแถลงการณ์ในเชิงหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้สนับสนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.74 ดอลลาร์ หรือ 6.3% ปิดที่ 45.94 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 49.05 ดอลลาร์/บาร์เรล