นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.60/62 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.58/60 บาท/ดอลลาร์
แนวโน้มเงินบาทวันนี้ยังน่าจะมีทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค เนื่องจากตลาดกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หลังจากที่เริ่มมีสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นจากการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) รอบล่าสุด
"แนวโน้มเงินบาทน่าจะยังอ่อนค่า เพราะตลาดยังกังวลเรื่องการปรับดอกเบี้ยของเฟด"นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.95/121.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.67/70 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0974/0978 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0950/0952 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.613 บาท/ดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
- ดอลลาร์อ่อนแรงลง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 1.5% เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.6% และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2 ซึ่งการชะลอตัวของ GDP ในไตรมาส 3 เป็นผลมาจากการที่บริษัทต่างๆ ลดการผลิต ขณะที่ผู้บริโภค, ภาคธุรกิจ และรัฐบาลชะลอการใช้จ่าย
- ตลาดหุ้นเอเชียเปรับตัวผันผวนในวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้น 0.1% เมื่อเวลาประมาณ 09.50 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 2.3% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 106.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
- นักลงทุนจับตาดูการประชุม BOJ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะพิจารณาถึงความจำเป็นในการผ่อนคลายทางการเงินต่อไปในการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนราคาผู้บริโภคและเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมาเกือบ 2 ทศวรรษ