นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.55/57 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.60/62 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทำ High ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์ และ ทำ Low ที่ระดับ 35.56 บาท/ดอลลาร์
"ตั้งแต่เมื่อคืนที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี เงินบาทก็ขยับขึ้นไป 35.70/72 แต่ไม่ผ่าน 35.75 ก็แข็งค่าลงเรื่อยมาจนล่าสุด มาอยู่ที่ 35.55" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทสัปดาห์หน้า น่าจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50-35.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.67 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 120.95/121.00 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1007 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0974/0978 ดอลลาร์/ยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประเมินว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3/58 จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 2/58 ที่เติบโตราว 2.8% และไตรมาส 1/58 เติบโต 3%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ย.58 ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน รวมทั้งการใข้จ่ายของภาครัฐที่ทำได้ต่อเนื่องแม้จะแผ่วลงบ้าง หลังจากที่เร่งใช้จ่ายไปในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวในอัตราที่ต่ำลงต่อเนื่อง และมีส่วนทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาคบริการชะลอตัว สำหรับการส่งออกสินค้าหดตัวในเกือบทุกหมวด ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน ก.ย.58 ปรับตัวดีขึ้นมาที่ 47.3 จาก 46.4 ในเดือน ส.ค.58 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในกลุ่มเคมีภัณฑ์และอาหารที่ปรับดีขึ้นตามองค์ประกอบด้านการผลิตและคำสังซื้อเป็นสำคัญ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 23 ต.ค.58 อยู่ที่
158.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 16 ต.ค.58 ที่ 158.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะเดียวกันฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 23 ต.ค.58 อยู่ที่ 12.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบ กับวันที่ 16 ต.ค. อยู่ที่ 13.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 23 ต.ค.58 อยู่ที่ 5,627.0 พันล้านบาท จาก 5,608.0 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ต.ค.58
- สภาคองเกรสสหรัฐลงมติในวันนี้ด้วยคะแนน 64 ต่อ 35 เสียง ในการอนุมัติข้อตกลงงบประมาณระยะเวลา 2 ปีของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยขจัดความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ และลดความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลในเดือนธ.ค.
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมวันนี้ โดยเชื่อว่าแนวโน้มเงินเฟ้อยังคงมีความเหมาะสม แม้ว่ามีภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในจีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆ
- สภาคองเกรสสหรัฐลงมติในวันนี้ด้วยคะแนน 64 ต่อ 35 เสียง ในการอนุมัติข้อตกลงงบประมาณระยะเวลา 2 ปีของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยขจัดความเสี่ยงที่รัฐบาลสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ และลดความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลในเดือนธ.ค. ข้อตกลงนี้จะมีการปรับเพิ่มระดับการใช้จ่าย รวมทั้งขยายเพดานหนี้ของรัฐบาล โดยจะขยายอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาลไปจนถึงเดือนมี.ค.2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สภาคองเกรสและประธานาธิบดีคนใหม่ปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ การอนุมัติข้อตกลงดังกล่าวจะกำจัดความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐไปจนถึงช่วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งหน้า
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับทบทวนเป้าหมายในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% เป็นช่วงครึ่งหลังของปีงบการเงิน 2559 จากเดิมที่ประเมินไว้ในครึ่งปีแรก ท่ามกลางราคาน้ำมันดิบที่ลดลงต่อเนื่องและภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน BOJ ได้ปรับลดแนวโน้มเงินเฟ้อ โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงานนั้น จะปรับตัวขึ้น 0.1% ในปีงบการเงิน 2558 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค.ปีหน้า และคาดว่าดัชนี CPI จะอยู่ที่ 1.4% ในปีงบการเงิน 2559 เมื่อเทียบกับที่เพิ่มขึ้น 0.7% และ 1.9% ตามลำดับ ที่คาดไว้ในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ BOJ ยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริง ในปีงบการเงิน 2558 โดยคาดว่าจะขยายตัว 1.2% เทียบกับ 1.7% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่คาดว่า GDP ปี 2559 จะขยายตัว 1.4%