(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 35.58 แนวโน้มแกว่งแคบ รอติดตามตัวเลขศก.สหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 2, 2015 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.58 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 35.55/57 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะขยับมาอยู่ที่ 35.55 บาท/ดอลลาร์ เมื่อเวลา 09.30 น.
"วันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ สัปดาห์นี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงาน(นอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐ) คืนวันศุกร์ที่จะมีผลต่อการตัดสินใจปรับดอกเบี้ยของเฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ) ในเดือนธันวาคม" นักบริหารเงิน กล่าว
แกว่งตัว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 35.50-35.65 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.5750 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(30 ต.ค.) อยู่ที่ 1.61208% และ THAI BAHT FIX 6M(30 ต.ค.) อยู่ที่ 1.65447%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 120.67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1031 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1007 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.5960 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (2-6 พ.ย.) ที่ระดับ 35.40-35.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยและข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานในเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้าง ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนอาจติดตามดัชนี PMI เดือนต.ค.ของหลายๆ ประเทศ ขณะที่ตลาดในประเทศอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ผลการประชุมนโยบายการเงิน(กนง.) ของไทยในช่วงกลางสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

  • เอกชนประเมินส่งออกปีหน้ายังเสี่ยงสูง จากเศรษฐกิจโลกผันผวน-สัญญาณฟื้นตัวไม่ชัดเจน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์คาดยังติดลบ ส่วนฮอนด้ารอประเมินสถานการณ์ ขณะ กลุ่มอาหาร-เกษตรแปรรูปมีแนวโน้มฟื้นตัว
  • "คลัง" เสนอแพ็คเกจลงทุนเอกชนเข้า ครม. 3 พ.ย. เปิดทางนำค่าใช้จ่ายลงทุน "ซื้ออุปกรณ์เครื่องจักร-สิ่งปลูกสร้าง" หักภาษีได้ 2 เท่า นาน 5 ปี กระตุ้นลงทุนปี 2558-2559 ดึง 4 กลุ่ม "ไบโอเทคโนโลยี-ผลิตหุ่นยนต์-การบินอุตสาหกรรมการแพทย์" ตั้งฐานผลิตในไทย
  • "สมาคมตราสารหนี้" ชี้บริษัทหน้าใหม่ออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปีมีแล้ว 32 บริษัท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัววงเงินรวม 4.23 แสนล้าน แนะใช้เป็นแหล่งระดมทุนทางเลือกที่ต้นทุนถูกกว่ากู้แบงก์ พร้อมมองโครงการความร่วมมือออกตราสารหนี้สกุลเงินท้องถิ่นเป็นเรื่องดี ช่วยบริษัทความคล่องตัวในการระดมทุนมากขึ้น
  • ธปท.เผยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สถาบันการเงินส่วนใหญ่ประเมินว่าความต้องการสินเชื่อทุกประเภทจะเพิ่มขึ้น พบสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อบัตรเครดิตช่วยดันยอดสินเชื่อภาคครัวเรือน แต่ด้วยความกังวลภาวะเศรษฐกิจยังมีอยู่ ทำให้ยังเพิ่มความระมัดระวังสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับภาคครัวเรือนและสินเชื่อให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอีที่เสี่ยงกว่ากลุ่มอื่น
  • "อาคม" เตรียมตรวจการบ้านแผนปฏิบัติการเร่งด่วน 20 โครงการ พร้อมเสนอใช้ ม.44 เพื่อเร่งรัดตามนโยบาย "นายกฯ" คาดพ.ย.นี้มีความชัดเจน
  • ก.พลังงาน เผยทิศทางราคาขายปลีกน้ำมันระยะสั้นช่วงพ.ย.นี้ยังมีลุ้นราคาขาลงได้อีก หลังราคาน้ำมันโลกยังไม่เกิน 60 เหรียญต่อบาร์เรลเหตุซัปพลายส่อแววยังล้น ย้ำราคาขายปลีกของไทยและมาเลเซียหากดูราคาตั้งต้นใกล้เคียง แต่ที่ไทยอาจแพงกว่าเพราะมาเลย์อุดหนุน ย้ำราคาถูกแพงให้ดูที่ภาษีฯ ซึ่งรัฐมีเป้าหมายเก็บเป็นรายได้พัฒนาประเทศ
  • ต่างชาติขายสะสมตั้งแต่ต้นปี-สิ้นต.ค.แล้ว 1.07 แสนล้านบาท นักวิเคราะห์ชี้ FED ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงธันวาคม ยิ่งกดดันให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย อีกทั้งเงินบาทส่อแววอ่อนค่าต่อเนื่อง ประเมินหุ้นไทยยังผันผวน แนะติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯต่อเนื่อง รวมถึงผลประชุมกนง.สัปดาห์นี้ ส่วนทั้งปีคาดดัชนี 1,460 จุด เม็ดเงินกองทุนLTF หนุนผสานเม็ดเงินลงทุนภาครัฐ
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน เพิ่มขึ้นแตะ 48.3 ในเดือน ต.ค.จาก 47.2 ในเดือน ก.ย.
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ อิงค์รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 46.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 49.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณในการประชุมครั้งล่าสุดว่าจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,141.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เริ่มแผ่วลง โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 120.71 เยน ระดับของวันพฤหัสบดีที่ 121.11 เยน ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1005 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ