"เช้านี้เงินบาทแข็งค่ามาต่ำสุดที่ 35.76 เป็นการแข็งค่าตามภูมิภาค หลังจากดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทำให้บาท เยนกลับมาแข็งค่า และยังขยับอยู่ใกรอบแคบๆ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวแคบๆในกรอบ แนวรับแรก 35.75 และ 35.70 เป็นแนวรับถัดไป ส่วนด้านบน 35.85 คือแนวต้านแรก แนวต้านถัดไปคือ 35.95 บาท/ดอลลาร์
"เบื้องต้นให้กรอบวันนี้ 35.75-35.85 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
โดยคืนนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่จะรายงานทุกวันพฤหัสบดีและ CPI ของยูโรโซน ซึ่งน่าจะมีผลต่อค่าเงินยูโรค่อนข้างมาก
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.7950 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(11 พ.ย.) อยู่ที่ 1.44755% และ THAI BAHT FIX 6M(11 พ.ย.) อยู่ที่ 1.50102%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 122.77 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ 1.0770 ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0720 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.850 บาท/ดอลลาร์
- เคาะสนั่นชิงใบอนุญาต 4จี คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ ดันราคาพุ่งไม่หยุด บอร์ด กสทช.ประชุมวาระพิเศษขยายเวลาไม่จำกัด ชี้สะท้อนความต้องการของผู้ให้บริการ ยันแม้ราคาประมูลสูงแต่ค่าบริการต้องต่ำกว่าระบบ 3จี
- กระทรวงการคลัง เตรียมสรุปปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบภายในสิ้นปี ภาษีบุคคลธรรมดาต่ำกว่า 35% ดึงเอกชนทำบัญชีเดียว เน้น E-Payment เพิ่มรายได้รัฐแสนล้าน โดยไม่ต้องเพิ่มแวต
- ธปท.เผยธุรกิจบัตรเครดิตมียอดคงค้างเอ็นพีแอลในระบบแตะ 1.01 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกือบ 25% ปริมาณการใช้จ่ายโดยรวมหดตัวจากไตรมาสก่อน 4.88 ล้านบาท ยอดเบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 286 ล้านบาท แซงหน้าการใช้จ่ายในและต่างประเทศที่หดตัว 4.87 พันล้านบาท และ 302 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลหนี้เสียแตะ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มจาก นอนแบงก์
- นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สัญญาณเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากลูกหนี้ที่มีปัญหาการชำระหนี้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากธนาคารลดลงเหลือ 90,000 ล้านบาท จากเดิมช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาลูกหนี้ขอความช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ และขอแก้ไขเงื่อนไขการผ่อนชำระมีวงเงินสินเชื่อรวมสูงสุด 140,000 ล้านบาท โดยสัดส่วน 90% เป็นลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและย่อมหรือเอสเอ็มอีรายเล็ก และสัดส่วน 10% เป็นลูกค้าบุคคล
- ปตท.คาดราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบปีหน้าเฉลี่ย 54 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีนี้ที่คาดว่าอยู่ที่ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้านปลัดก.พลังงานเผยศึกษายกเลิกการจำหน่ายอี 10ใน 8 ปีข้างหน้า โดยหนุนรถยนต์ใช้อี 20 แทน
- "สุรินทร์"อดีตเลขาธิการอาเซียนแนะรัฐและเอกชนไทยเร่งปรับวิชันเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันรับมือกระแสการค้าโลกที่เปลี่ยนไป ชี้ช่องให้ความสำคัญตลาดอาเซียนและอาเซียน+6
- บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุด โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังดูมืดมนไม่สดใสในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ยังไม่มีเครื่องมือที่จะมารับมือกับสภาพอาการช็อกของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์ทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะจับตาถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจจะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.28 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 42.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.63 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ระดับ 45.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,084.90 ดอลลาร์/ออนซ์
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลา 5 เดือน
- คณะที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเยอรมนีแถลงว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีจะขยายตัว 1.7% ในปีนี้ ขณะที่เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัย