คลังแจงดันไทยเป็น Hub ศูนย์วิจัยยานยนต์ช่วยสร้างงาน-เพิ่มขีดแข่งขัน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 18, 2015 10:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 17 พ.ย.58 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ต้นแบบในภูมิภาค เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาว ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนในการวิจัย พัฒนา รวมทั้งการลงทุนจัดตั้งศูนย์ทดสอบสมรรถนะยานยนต์อย่างครบวงจรในประเทศไทยต่อไป

มาตรการดังกล่าวจะก่อให้เกิดการลงทุนและการจ้างงาน รวมทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาว สำหรับผู้ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรจะต้องเป็น ผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ ที่ได้รับอนุมัติตามประกาศที่กรมสรรพสามิตกำหนด

ผู้ประกอบอุตสาหกรรมซึ่งส่งมอบรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบให้แก่ผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะยานยนต์ ที่ได้รับอนุมัติตามประกาศที่กรมสรรพสามิตกำหนด ทั้งนี้ รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร หมายถึง รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่มีภาระภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายภาษีสรรพสามิต ที่ไม่เคยมีจำหน่ายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ผลิตภายในประเทศหรือนำเข้า มีสภาพใหม่หรือใช้แล้ว รวมทั้งต้องไม่เคยจดทะเบียนการใช้งานมาก่อน และใช้เพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะของผู้วิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะที่ได้รับอนุมัติจากกรมสรรพสามิต

ในด้านสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้นแบบ ได้แก่ การยกเว้นอากรขาเข้าการยกเว้นภาษีสรรพสามิต ไม่มีภาระภาษีมูลค่าเพิ่ม และการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบจากมูลค่าต้นทุนทั้งหมดในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้

การดำเนินมาตรการดังกล่าว เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปด้วยความรอบคอบ จะมีการดำเนินการ ดังนี้

กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานมีหน้าที่ในการรับรอง ควบคุม และตรวจสอบ รวมทั้งการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบ

กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการแก้ไขระเบียบสำหรับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ได้รับการรับรองจากกรมสรรพสามิตไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากกระทรวงพาณิชย์

กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากรจะดำเนินการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ