ปลัดคลัง คาดแผนพัฒนาตลาดทุนมีผลต้นปี 59 เน้นระดมทุน-ลดพึ่งพางบประมาณ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 30, 2015 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในอนาคตประเทศไทยรวมทั้งประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง(GMS) มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เม็ดเงินอย่างมากสำหรับการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างในด้านต่างๆ ซึ่งการจะหวังพึ่งพาเฉพาะแหล่งเงินจากเพียงธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้นตลาดทุนจึงถือว่ามีความสำคัญมากที่จะเป็นช่องทางในการระดมทุนเพื่อนำเงินมาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างด้านต่างๆ ซึ่งการจัดสัมมนา International Capital Markets Conference(ICMC) 2015 จะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการกำหนดทิศทางของการพัฒนาตลาดทุนในประเทศต่างๆ เพื่อให้อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสามารถระดมทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งยังมีความต้องการเงินจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ในอนาคตอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนในจำนวนที่สูงมาก ดังนั้นการพึ่งพาเฉพาะเม็ดเงินจากธนาคารพาณิชย์หรือระบบสถาบันการเงินอาจจะไม่เพียงพอ ทำให้ตลาดทุนจึงมีความจำเป็นอย่างมาก และในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงก็ยังมีการพัฒนาที่ไม่สูงมาก วันนี้จึงมาระดมความคิดเห็นกันว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งประเทศไทยเองมีการพัฒนาตลาดทุนไปอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างในการพัฒนาตลาดทุนในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไปในอนาคต" ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนขึ้น โดยมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแผนปฏิรูปตลาดทุนไทยในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังร่างแผนปฏิรูปตลาดทุนให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า โดยในแผนปฏิรูปตลาดทุนไทยนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการให้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งในการระดมทุนที่สำคัญของกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยต้องการให้เป็นตลาดทุนที่เชื่อมโยงกับตลาดอื่นๆ ที่ทันสมัยได้ ทั้งในสิงคโปร์ และมาเลเซีย ซึ่งการที่เราทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้ จะทำให้ภาคบริการโดยเฉพาะตลาดทุนสามารถส่งเสริมการผลิตในภาค Real sector ได้สูงตามไปด้วย

“ร่างแรกของแผนพัฒนาตลาดทุน คาดว่าจะเสร็จได้ราวกลางเดือนธ.ค.ปีนี้ น่าจะเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่นายกฯ เป็นประธานประชุมในปลายธ.ค. ซึ่งถ้าไม่มีการแก้ไขมากก็น่าจะประกาศใช้ได้ต้นปีหน้า หรืออย่างช้าไม่เกินไตรมาส 1 ปี 59" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ในแผนปฏิรูปตลาดทุนที่กำลังร่างอยู่นี้ คงจะไม่เน้นใช้มาตรการทางภาษี เพราะที่ผ่านได้ให้ความช่วยเหลือเรื่องมาตรการภาษีมาพอสมควรแล้ว ซึ่งคราวนี้ได้มีการตกลงกันในคณะกรรมการฯ ว่าจะต้องมองไปข้างหน้าว่าภาษีไม่ใช่อุปสรรคสำคัญแล้ว เพราะเราได้ใช้มาตรการภาษีแก้ไขปัญหาเพื่อให้ตลาดทุนไทยเดินหน้าไปในระดับหนึ่ง ส่วนจะมีมาตรการการคลังหรือไม่นั้น คงจะมีบ้างแต่ไม่มาก ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะประเด็นหลักจะเป็นเรื่องการสร้างความแข็งแกร่ง การสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับสถาบันการเงินที่เป็นตลาดทุน และการให้ความรู้แก่ประชาชนมากขึ้นในเรื่องตลาดทุน

“ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงรวมทั้งไทย มีความจำเป็นต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ไทยเองปีหน้าที่เป็นปีแห่งการลงทุนนั้น จะต้องมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อการระดมทุน ทั้ง Thailand future Fund กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ในเชิงอนุพันธ์ที่ทำให้มีการระดมทุนได้สูง ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถระดมทุนและลดการพึ่งพางบประมาณแผ่นดินได้" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ