(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 36.06 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลล์แข็ง

"เงินบาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้หลังมีปัจจัยหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า แต่ตลาดค่อนข้างบางเพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 36.08-36.18 บาท/ดอลลาร์

"ถ้าไม่มีบิ๊กอีเวนท์อะไร วันนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 36.0867 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(23 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.49142% และ THAI BAHT FIX 6M(23 ธ.ค.) อยู่ที่ 1.57485%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.85 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.94 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0915 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0921 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 36.0660 บาท/ดอลลาร์
• นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า บริษัท สแตนดาร์ดแอนด์ พัวร์ หรือเอสแอนด์พี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างประเทศ ได้ยืนยันอันดับเครดิตของประเทศไทย โดยคงเครดิตหนี้ระยะยาวที่ระดับบีบีบี บวก และระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาล ที่ระดับเอ ลบ 2 และเครดิตหนี้ระยะยาวที่ระดับ เอ ลบ และระยะสั้นสกุลเงินบาทของรัฐบาล ที่ระดับเอ ลบ 2 รวมทั้ง ยืนยันแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศระยะยาวมีเสถียรภาพ
• รัฐบาลส่งมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี จูงใจประชาชนจับจ่ายใช้สอย ให้นำเงินซื้อสินค้าไปหักภาษีบุคคลธรรมดาไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท พร้อมปรับโครงสร้างภาษีเงินได้ ปรับค่าลดหย่อนและลดเพดานจัดเก็บเหลือ 30%
• บอร์ด ทอท.ไฟเขียวทีโออาร์โครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 แล้ว 3 กลุ่มงาน วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 4 กลุ่มงานอยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด คาดประกวดราคาได้ทั้งหมดปี 59 ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 62 จุผู้โดยสารเพิ่มเป็น 60 ล้านคน
• นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นำทีมเศรษฐกิจโชว์ผลงานรัฐบาลครบรอบ 1 ปี มั่นใจจีดีพีปีหน้าพุ่งไม่มีถดถอยอย่างแน่นอน หลังดัชนีชี้วัดทางด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมดี ด้านขุนคลัง "อภิศักดิ์" ตั้งเป้าปฏิรูปโครงสร้างภาษีปีหน้า ลดต้นทุนผู้ประกอบการ และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ประเมินภาพรวมท่องเที่ยวในปี 2558 ยังคงเป็นอุตสาหกรรมหลักทำรายได้เข้าประเทศได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับ อุตสาหกรรมอื่นๆ และยังมีแนวโน้มที่ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ท่ามกลางภาวะแวดล้อมที่มีปัจจัยกระทบหนักอย่างเรื่องเศรษฐกิจโลกและภัยก่อการร้าย
• กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนพ.ย. ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2007
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.พ.พุ่งขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 37.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ตลาดหุ้น โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ.ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ระดับ 1,068.30 ดอลลาร์/ออนซ์
• ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร และปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายยูโร ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มที่ยูโรโซนจะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0954 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.85 เยน จาก 121.04 เยน
• สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานเศรษฐกิจอังกฤษขยายตัวในอัตราต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาส 2 และ 3 โดยมีการขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าระดับ 0.5% ที่มีการประเมินในเบื้องต้น

---