"ปีที่ผ่านมา กรมฯได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการปรับลดราคาสินค้าตามราคาน้ำมันลงแล้ว 2 ครั้ง และวันที่ 1 ม.ค. 59 เป็นครั้งที่ 3 โดยหลังจากที่ผู้ขนส่งยอมลดราคาขนส่งแล้ว กรมฯจะแจ้งไปยังผู้จำหน่ายสินค้าให้ปรับลดลงตามด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องขอทำความเข้าใจแก่ผู้บริโภคเรื่องต้นทุนค่าขนส่งของสินค้าจะอยู่ที่ 12-13% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ดังนั้น ค่าขนส่งลดลง 5-10% ราคาสินค้าก็น่าจะลดลง 1-2% เพราะต้นทุนอย่างอื่นไม่ได้ลดตาม เช่น ค่าแรง หรืออัตราแลกเปลี่ยน วัตถุดิบอื่นๆ เป็นต้น" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดีเซลลดลงจากเดิมลิตรละ 29.99 บาท เหลือลิตรละ 20.64 บาท หรือลดลง 31.18% ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าลดลงรวม 12-15% และต้นทุนสินค้าลดลง 1.2-2.25% ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภค 274 รายการ ลดลง 2.08-39% เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, ข้าวสารบรรจุถุง, น้ำมันพืช, ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปน้ำปลา, ซอสปรุงรส, ผงชูรส เป็นต้น และหมวดวัสดุก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น สายไฟฟ้า กระเบื้องมุงหลังคา เป็นต้น และน้ำมันหล่อลื่น
นอกจากนี้ยังลดราคาปุ๋ยเคมีที่ใช้ในนาข้าวและพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ลดลงกระสอบละ(50 กก.) 35-70 บาท หรือลดลง 4.04-10.53% เช่น ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 ลดลงกระสอบละ 70 บาท หรือ 10.53% จากกระสอบละ 665 บาทเหลือกระสอบละ 595 บาท, ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช ราคาลดลง 8-10% และราคายางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รุ่นเดิมลดลง 5-10% เพราะใช้ต้นทุนยางพาราในราคาเดิมที่ กก.ละ 77-80 บาท และรุ่นใหม่ ลดลง 16-39% เพราะใช้ต้นทุนยางพาราในราคาปัจจุบัน
ด้านนายยู เจียรยีนยงพงศ์ ประธานสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แนวโน้มค่าขนส่งยังลดลงได้ หากราคาน้ำมันอยู่ในระดับปัจจุบัน และปัจจัยจำนวนผู้ประกอบการขนส่งมีจำนวนเกินความต้องการของตลาด เพราะลูกค้ากลุ่มใหญ่คือภาคเกษตรลดปริมาณสินค้าลงจากปัญหาภัยแล้ง