เงินบาทเปิด 36.13/15 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 36.10-36.30

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 5, 2016 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.13/15 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.14/15 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทคาดว่าจะยังแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดเงินของต่างประเทศเพิ่งเริ่มเปิดทำการในวันนี้ ขณะที่ข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมายังไม่ค่อยโดดเด่นนัก อย่างไรก็ดีมองว่าเงินบาทวันนี้มีโอกาสอ่อนค่าได้ และเป็นไปตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค

"วันนี้บาทคงแกว่งในกรอบแคบๆ แต่ก็มีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีกตามทิศทางของภูมิภาค ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็ทรงๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 36.10-36.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.55/60 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.86 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0823/0827 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0929 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.0770 บาท/ดอลลาร์
  • แบงก์ชาติปรับลดวงเงินขั้นต่ำ พันธบัตร ธปท. ขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน หวังเปิดทางแผนระดมทุนของภาครัฐออกมามากในอนาคต ย้ำส่วนใหญ่ยังคงเป็นการออกพันธบัตร เพื่อทดแทนรุ่นเก่าครบกำหนด เผยไม่มีแผนออกพันธบัตรออมทรัพย์ ธปท.รุ่นใหม่
  • บล.เอเชีย เวลท์ คาดปัญหาซาอุฯ เป็นปัจจัยใหม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มหุ้นไทยปี 59 เชื่อเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คาดราคาน้ำมันจะขยับตัวขึ้น อาจมีการเก็งกำไรหุ้นพลังงานในช่วงสั้นๆ นักลงทุนควรระมัดระวัง แนะลงทุนหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐเป็นหลัก
  • นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานฝ่ายเอกชนของคณะทำงานด้านการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น กล่าวว่า ภาคเอกชนจะทำงานประสานความร่วมมือกับภาครัฐและบริษัทขนาดใหญ่ เพื่อแจ้งสิ่งที่ต้องการรับการสนับสนุน เพื่อนำไปสู่ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์ทอัพที่ตรงกับความต้องการจริง
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินในเดือนธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 48.2 จาก 48.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว และหากดัชนีสูงกว่า 50 จะบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง และข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอ ได้หนุนความต้องการสกุลเงินเยน ซึ่งถือเป็นสกุลเงินที่มีความปลอดภัย
  • นักลงทุนเทขายดอลลาร์สหรัฐเพื่อถือสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากซาอุดิอาระเบียประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านได้ก่อเหตุโจมตีสถานทูต และสถานกงสุลของซาอุดิอาระเบียในอิหร่าน เพื่อตอบโต้การที่ซาอุดิอาระเบียได้ประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย 47 ราย
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป ส่วนสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านนั้น ได้หนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในช่วงแรก ก่อนที่จะอ่อนแรงลงมาปิดตลาดในแดนลบ

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ขยับลง 28 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 37.22 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ