วันนี้เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยระดับปิดตลาดเย็นนี้เป็นระดับที่แข็งค่าสุดของวัน โดยวันนี้ยังไม่มีข้อมูลสำคัญที่จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินมากนัก ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ
"วันนี้บาทแกว่งแคบๆ ปิดตลาดก็เป็นระดับ low สุดของวัน วันนี้ตลาดญี่ปุ่นก็ปิด ส่วนคืนนี้สหรัฐฯ ก็ไม่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอะไร" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.20-36.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.79 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.11/16 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร ช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.0887 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0930/0940 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,234.50 ลดลง 9.68 จุด (-0.78%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 36,577 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 263.23 ลบ.(SET+MAI)
- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2559 นี้จะสามารถเติบโตได้ถึง 3.9-4% มากกว่าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ประเมินไว้ว่าจะเติบโตได้ 3.8% เนื่องจากรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมผ่านมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในแต่ละไตรมาส
พร้อมมองแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดยคาดว่าในช่วงปลายปีนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ต้องการระดมเงินทุนจำนวนมาก ดังนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็อาจจะได้เห็นในช่วงนั้น
- นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะจัดประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สคร.) จากทั่วโลกในวันที่ 20 ม.ค.นี้ โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า รวมทั้งการมอบนโยบายเพื่อผลักดันการส่งออกของไทยในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5%
- ธนาคารออมสิน ร่วมสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งหมด 20 แห่ง จัด"โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs" ระยะที่ 2 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าโครงการนี้ได้ประมาณ 5,000 ราย และจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้หมดภายในระยะเวลา 1 เดือน
- ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาว่าด้วยจีนในเศรษฐกิจโลก (CCWE) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนได้ชะลอตัวลงจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว และมีแนวโน้มจะแตะระดับ 6.8% ในปี 2559 ซึ่งการบริโภคภายในประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของจีน ขณะเดียวกัน การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากการลดกำลังการผลิตและลดอัตราสินค้าคงคลังของจีนกำลังเริ่มปรากฎให้เห็น นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีเสถียรภาพ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกน่าจะส่งผลให้การส่งออกของจีนมีความแข็งแกร่ง
- นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปรับลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ เพื่อช่วยหนุนสภาพคล่องในระยะยาว
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเดือนธ.ค.58 ของจีน ปรับตัวลดลง 1.079 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะ 3.33 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งการร่วงลงอย่างหนักของทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ และการอ่อนค่าของเงินหยวนเมื่อไม่นานนี้ ได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับเงินทุนไหลออกนอกประเทศจีนมากยิ่งขึ้น