เงินบาทปิด 35.82 แกว่งแคบ นลท.รอจับตาผลการประชุมเฟดคืนนี้

ตลาดรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะทราบผลในคืนนี้ โดยตลาดคาดว่าการประชุมรอบนี้ FOMC จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม

"บาทวันนี้แกว่งแคบมากๆ เพราะตลาดรอผลประชุม FOMC ในคืนนี้...ตลาดคาดการณ์ว่ารอบนี้น่าจะยังคงดอกเบี้ยเท่าเดิม ซึ่งก็น่าจะมีผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.80-35.95 บาท/ดอลลาร์ แต่หากหลุด 35.80 ลงไปก็คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 35.70-35.85 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 118.18 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0874 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 1.0806 ดอลลาร์/ยูโร
• ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,278.29 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด, +0.81% มูลค่าการซื้อขาย 42,243.03 ล้านบาท
• สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 408.06 ล้านบาท (SET+MAI)
• นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 58 จะขยายตัวได้ 2.9% ดีกว่าก่อนหน้านี้ที่คาดไว้ 2.8% ส่วนโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ คาดจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 59 ให้เพิ่มขึ้นได้อีก 0.15% จากล่าสุดที่ สศค.ประมาณการไว้ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.8%
• นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) ว่าวันนี้ กระทรวงคมนาคมได้รายงานแผนความคืบหน้าเรื่องการพัฒนารถไฟ และรถไฟฟ้า รวมทั้งความคืบหน้าโครงการตามมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP Fast Track) และกระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ-ระยอง ความเร็ว 250 กม./ชั่วโมง นำเข้า PPP Fast Track เป็นโครงการที่ 6
• นายเขมทัศน์ สายเชื้อ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK พร้อมทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้ภาคการส่งออกของไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 5% ที่รัฐบาลตั้งไว้ ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเงินให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นและขยายธุรกิจส่งออกได้
• สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์และเทคโนโลยี ของไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น (CNPC) เปิดเผยว่า จีนพึ่งพาน้ำมันนำเข้าเกินอัตราส่วน 60% เป็นครั้งแรกในปี 2558 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2559

รายงานระบุว่า ปริมาณการใช้น้ำมันในจีนปรับตัวขึ้น 4.4% ในปี 2558 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้สัดส่วนการนำเข้าสุทธิอยู่ที่ระดับ 60.6%

• นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
• สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค.59 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 97 จากระดับ 96 ในเดือนก่อนหน้า แม้มีความกังวลก่อนหน้านี้ว่าเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาจะกระทบผู้บริโภค
• ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK เผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีมีแนวโน้มทรงตัวในเดือน ก.พ.59 โดยคาดว่าจะอยู่ที่ 9.4 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ม.ค.59 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 9.3

---