นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ ทีเส็บ เปิดเผยว่า การดำเนินงานของ ฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติในปีนี้จะมุ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ โดยดำเนินการผ่านกลยุทธ์ 3 มิติ คือ เพิ่มรายได้ ส่งเสริมภาพลักษณ์ และพัฒนาความร่วมมือ
"แผนงานของทีเส็บจะสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลตามแผนยุทธศาสตร์ชาติที่เน้นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนผ่านการพัฒนาและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านล้านบาทภายในปี 59 และส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนขับเคลื่อนการพัฒนา พร้อมกับยกระดับความสามารถของอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนการค้าและการลงทุน เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม" นางศุภวรรณ กล่าว
แนวทางการสร้างรายได้เข้าประเทศนั้น ทีเส็บมุ่งหวังเพิ่มรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มจำนวนผู้จัดงาน ผู้เข้าร่วมงานและจำนวนงานแสดงสินค้าในกลุ่ม 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ยานยนต์ พลังงาน อาหารและสินค้าเกษตร สุขภาพและอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะเดียวกันมุ่งสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยจะมุ่งส่งเสริมให้ไทยเป็นเวทีจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน ภายใต้แคมเปญ ‘Thailand Extra Exhibition…Expand Your Business Opportunities in ASEAN’ซึ่งจะเป็นการวางตำแหน่งทางการตลาดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของประเทศ โดยนำเสนอจุดแข็งของไทยในมิติต่างๆที่สามารถตอบโจทย์ นำเสนอความคุ้มค่าและผลประโยชน์ที่มากกว่าในการเข้าร่วมงานและจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย สำหรับมิติของการส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือภาครัฐและเอกชน มุ่งผลักดันให้อุตสาหกรรมต่างๆเติบโตอย่างมั่นคง โดยในปีหน้า ทีเส็บจะขยายความร่วมมือกับ 5 กระทรวงหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรม พลังงาน เกษตรและสหกรณ์ สาธารณสุข และคมนาคม ในการพัฒนางานแสดงสินค้าจาก 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
พร้อมกันนั้นจะดำเนินการขับเคลื่อนการส่งเสริมมหกรรมนานาชาติและเมกะอีเว้นต์ ผ่าน 3 กลยุทธ์ - Win ประมูลสิทธิ์ดึงงานใน 4 กลุ่มภาคเศรษฐกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพ ได้แก่ Entertainment, Art & Culture, Creative & Lifestyle และ Tourism & Sport กลยุทธ์ Promote มุ่งนำเสนอศักยภาพความพร้อมของไทยในการจัดงานอย่างมีบูรณาการผ่านสื่อทั้งในและต่างประเทศ และกลยุทธ์ Develop มุ่งสร้างโอกาสและเครือข่ายความร่วมมือจัดงานมหกรรมนานาชาติและอีเวนต์ระหว่างเมืองและระหว่างประเทศ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เมืองต่างๆมีเอกลักษณ์ในการจัดงาน เช่น เชียงใหม่เมืองแห่ง Art & Culture กรุงเทพเมืองแห่ง Creative & Lifestyle ขอนแก่นเมืองแห่ง Entertainment พัทยาและบุรีรัมย์ เมืองแห่งกีฬา
ขณะที่นางจารุวรรณ สุวรรณศาสน์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บจะเปิดตัวแคมเปญตลาดสำหรับตลาดแสดงสินค้าประจำปี 2559 ‘Thailand Extra Exhibition…Expand Your Business Opportunities in ASEAN’ เป็นครั้งแรกในงาน Thailand International Exhibitions & Events Forum (TIEEF 2016) กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสร้างศักยภาพและภาพลักษณ์ของไทยด้านการเป็นเวทีงานแสดงสินค้าแห่งภูมิภาคอาเซียน เน้นความสำคัญของเครือข่ายความร่วมมือกับภาคีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์ของไทย โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแสดงสินค้านานาชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้าร่วมงานประมาณ 400 คน
ภายใต้แคมเปญ ‘Thailand Extra Exhibition…Expand Your Business Opportunities in ASEAN’ ทีเส็บ ยังคงส่งเสริมจุดแข็งของประเทศไทยใน 3 ด้าน จุดหมายปลายทาง ธุรกิจ และบุคลากร แต่นำเสนอความพิเศษที่มากกว่า จุดหมายปลายทางที่ให้มากกว่าโอกาสทางธุรกิจ ด้วยจุดเด่นทางภูมิศาสตร์ความเป็นเมืองหลวงแห่งการเชื่อมต่อทางธุรกิจของอาเซียน ศูนย์กลางของเอเชียที่เชื่อมโยงกับภูมิภาคซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ได้แก่ กลุ่มประชาคมอาเซียน กลุ่มอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม หรือ CLMV รวมถึงความเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก
อีกทั้งประเทศไทยยังจูงใจนักธุรกิจและเสริมความสำเร็จด้วยความโดดเด่นของ 5 อุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศและเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตาในตลาดโลก ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมอาหารและสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมสุขภาพ และอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมุ่งเน้นให้ความสำคัญและส่งเสริม เพื่อให้เป็นฐานทางการค้า ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเหล่านี้ผ่านเวทีงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทย
นอกจากนี้ ทีเส็บยังได้จัดแพคเกจสนับสนุนตลาดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศไทย ประกอบด้วยแพคเกจ Connect Businesses สนับสนุนผู้เข้าร่วมงานในการจับคู่เจรจาธุรกิจในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นในประเทศไทย / Be My Guest ให้การสนับสนุนด้านที่พักแก่ผู้ซื้อคุณภาพ/Premier Exhibitions Access Service สนับสนุนการจัดโปรแกรมแบบเต็มรูปแบบสำหรับผู้จัดงานที่สนใจจะจัดงานแสดงสินค้าในประเทศไทย อาทิ 1) สำรวจพื้นที่จัดงาน 2) การทำวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 3) การนัดหมายให้พบกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องตามความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง เป็นต้น