วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนรอดูการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4/58 ของสหรัฐในช่วงคืนนี้ รวมทั้งรอผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นว่าจะมีการออกมาตรการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-36.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.56/61 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.74 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.0939/0941 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0915/0918 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.8570 บาท/ดอลลาร์
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 6-14 ก.พ. นี้ คาดว่ามีเงินสะพัดด้านท่องเที่ยวกว่า 29,920 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมา 1.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19% เป็นนักท่องเที่ยวจาก 5 ตลาดหลัก ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเซีย รวม 476,000 คน เติบโต 20% สร้างรายได้ 15,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน
- ซีไอเอ็มบีไทยชี้เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังเสี่ยง จับตาส่งออกไทยยังเสี่ยงหดตัวได้ในปีนี้ จากผลกระทบเศรษฐกิจจีนฟุบ แนะผู้ประกอบการเบนเข็มสู่ตลาด CLMV โดยเฉพาะเวียดนามยังเติบโตได้ดี ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงยังเป็นปัญหากับกลุ่มเกษตรกรที่รัฐบาลยังต้องดูแล
- กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ 14 ธนาคาร ปล่อยเงินกู้เอสเอ็มอีขนาดเล็ก วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท วาง 5 อุตฯเป้าหมายเพิ่มขีดแข่งขัน ด้าน กสอ.เผยเอสเอ็มอีอีกกว่า 4,000 ราย สมัครเข้าร่วมโครงการฟื้นฟู
- นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยว่า ประเทศไทยต้องพัฒนาการค้าขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ผ่านมาเก่งแต่ด้านการผลิต วันนี้ไม่เพียงพอ เพราะต้นทุนสูงกว่าคู่แข่ง แต่มีกำไรน้อยกว่า ทำให้ผู้ส่งออกไทยเหนื่อยมากขึ้น
- นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยร่างแรกของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จำนวน 270 มาตราเป็นครั้งแรก ก่อนส่งมอบเนื้อหาให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขณะที่มองว่า การเลือกตั้งอาจต้องเลื่อนออกไปเป็นปลายปี 60 เพื่อรอยกร่าง กม.ลูกและกฎหมายที่สำคัญ
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงมากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐกำลังย่ำแย่
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 5.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยการดิ่งลงของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
- ติดตามการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ในวันนี้ ซึ่งคาดกันว่าที่ประชุมจะมีการหารือกันถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม เพื่อรับมือกับความปั่นป่วนในตลาดการเงิน
- นักลงทุนรอดูตัวเลขประมาณการครั้งแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐช่วงไตรมาส 4/2558 ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะร่วมมือกันเพื่อปรับลดกำลังการผลิต โดยมีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 2.9% ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 33.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
- กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 0.1% จากปีก่อนหน้านี้ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวนนั้น อยู่ที่ระดับ 103.3 เมื่อเทียบกับฐาน 100 ในปี 2553