1. ความต้องการข้าวแยกรายชนิด ปี 2559/60 คาดว่าจะมีประมาณ 27.17 ล้านตันข้าวเปลือก โดยกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาดร้อยละ 8 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการกำหนดพื้นที่ปลูกข้าว และบริหารจัดการพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ลงไปถึงระดับตำบล โดยจะต้องมีการหารือในรายละเอียดต่อไป
2. ปัจจัยการผลิต ได้กำหนดมาตรการลดต้นทุนการผลิต โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำนาแปลงใหญ่ เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนในการพัฒนาตั้งแต่การพัฒนาพันธุ์เทคโนโลยีการเพาะปลูกจนถึงการจำหน่าย และกระทรวงพาณิชย์ จะดูแลในเรื่องต้นทุนค่าปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชพร้อมกับมีมาตรการจูงใจให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี ปรับปรุงสภาพที่นาในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำนา รวมทั้ง บริหารจัดการรถเกี่ยวนวดที่เหมาะสม ทั้งด้านปริมาณและราคา
3. ด้านการตลาดในประเทศ พิจารณาข้อเสนอมาตรการช่วยเหลือของเกษตรกร โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการให้มีข้อสรุปเพื่อนำเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรให้ นบข.พิจารณาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559
รวมถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ มาตรการในปีที่ผ่านมา เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น เช่น โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี โครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี โครงการประกันภัยข้าวนาปี โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก โครงการจัดตลาดนัดข้าวและพืชไร่ โครงการเชื่อมโยงการตลาดข้าวหอมมะลิระหว่างผู้ส่งออกและโรงสี
รวมทั้งมาตราการส่งเสริมการตลาดอื่นๆ เช่น การส่งเสริมประสิทธิภาพและมาตรฐานโรงสี การจัดหาสินเชื่อเพื่อให้โรงสีจัดหาหรือปรับปรุงอุปกรณ์ ไซโล การเชื่อมโยงการจำหน่ายข้าวคุณภาพเฉพาะ การกำกับดูแลและให้ความเป็นธรรมกับเกษตรกรในการจำหน่ายผลผลิต โดยการตรวจสอบเครื่องชั่ง เครื่องวัดความชื้น การปิดป้ายแสดงราคา รวมทั้งในด้านข้อมูลข่าวสารสร้าง การรับรู้ ได้มีการจัดทำข้อมูลการผลิตและการค้าข้าวเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้าง ความเป็นธรรมให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งการรณรงค์บริโภคข้าว
4. ด้านการตลาดต่างประเทศ มีการกำหนดแผนการขยายตลาดต่างประเทศ ในรูปแบบ G to G ในภูมิภาคต่างๆ การจัดกิจกรรมเสริมสร้างภาพลักษณ์ และการรับรู้และขยายตลาดข้าวคุณภาพเฉพาะการปรับปรุงมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศประชาสัมพันธ์คุณค่าของข้าวแต่ละชนิด ตลอดจนส่งเสริมการบริโภคข้าวไทยในตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ มีการระดมความคิดเห็นในภาคส่วนต่างๆ นอกเหนือจากกลุ่มผู้ส่งออก โรงสี ชาวนา มีการรับฟังข้อคิดเห็นจากชาวนารุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ได้ข้อคิดเห็นใหม่ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สุขภาวะของเกษตรกรเพิ่มขึ้น