รมช.พาณิชย์ เตรียมเสนอครม.ของบฯกลาง 1.5 พันลบ.ขับเคลื่อนศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 1, 2016 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนเองได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงแผนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจการค้าภายในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความเห็นชอบในหลักการจากนายกรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางปีให้แก่กระทรวงพาณิชย์วงเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบผูกพัน 3 ปี แบ่งเป็น งบขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ 620 ล้านบาท และงบการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 880 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบในวันที่ 9 ก.พ.นี้

สำหรับงบประมาณดังกล่าวจะใช้สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก เริ่มตั้งแต่การพัฒนาเกษตรกรให้เป็นสมาร์ท ฟาร์เมอร์, วิสาหกิจชุมชน, ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ให้มีความเข้มแข็งทั้งในด้านการผลิต และการตลาด โดยต้องผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด จากที่ผ่านมา ไทยติดกับดักผลิตสินค้าล้นตลาด จนราคาตกต่ำ และต้องมีการแทรกแซงราคากันโดยตลอด ซึ่งจะทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อุตสาหกรรม มหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) รวมถึงคณะกรรมการประชารัฐ

ด้าน น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาด และส่งเสริมให้แปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% นอกจากนี้ จะผลักดันตลาดชุมชน และเชื่อมโยงตลาดชุมชนเข้าสู่ตลาดกลาง เพื่อช่วยกระจายสินค้าเกษตร โดยจะพัฒนาให้เกิดตลาดกลางสมบูรณ์แบบ มีทั้งคลังสินค้า ห้องเย็น ไซโล โดยจะนำร่องที่จ.เชียงราย อุดรธานี ราชบุรี จันทบุรี และนครศรีธรรมราช รวมถึงจะผลักดันให้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า 3 แห่ง ที่สระแก้ว อุดรธานี และราชบุรี เพื่อกระจายสินค้าไทยเข้าสู่ตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม)

ขณะที่นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จะผลักดันการส่งออกสินค้า บริการ การลงทุน และการท่องเที่ยว มีตลาดเป้าหมายที่ CLMV โดยจะเจาะตลาดเป็นรายเมือง สร้างเครือข่ายธุรกิจไทยกับตลาดเป้าหมาย ผลักดันให้ธุรกิจไทยเข้าไปลงทุน ตั้งเป้าหมายผลักดันให้การค้าเพิ่มขึ้น 15% และการลงทุนเพิ่มขึ้น 20% ส่วนการพัฒนาแบรนด์สินค้า ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี จะพัฒนาแบรนด์สินค้าไทย ที่มีศักยภาพด้านการตลาดเพิ่มเป็น 650 แบรนด์ จากเดิม 500 แบรนด์ และผลักดันให้เกิดแบรนด์สินค้าไทยในระดับโลกเป็น 40 แบรนด์ จากปัจจุบันที่มีน้อยมาก

สำหรับการทำตลาดผ่านอี-คอมเมิร์ซนั้น กรมฯ มีเว็บไซต์ thaitrade.com ซึ่งเป็นตลาดกลางซื้อขายสินค้าไทยในรูปแบบ b2b (ภาคธุรกิจซื้อขายกันเอง) แต่จะผลักดันให้เกิดรูปแบบ b2c โดยขายตรงถึงผู้บริโภค และจะผลักดันให้มีผู้ประกอบการเข้าซื้อขายในเว็บไซต์จาก 20,000 รายเพิ่มเป็น 100,000 รายใน 3 ปี และเพิ่มเป็น 200,000 รายใน 5 ปี รวมถึงจะเชื่อมโยงเว็บดังกล่าวกับเว็บไซต์ระดับโลกอย่าง alibaba.com สำหรับเจาะตลาดจีน และ amazom.com สำหรับเจาะตลาดยุโรป และสหรัฐฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ