นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.76/77 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เนื่องจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นและราคาน้ำมันในตลาดโลก
"เช้านี้บาทอ่อนค่าขึ้นมาเยอะมากตามสถานการณ์ตลาดหุ้นและราคาน้ำมัน" นักบริหารเงิน กล่าว
ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐคืนนี้ ซึ่งจะมีผลต่อตัวเลขการจ้งงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่จะประกาศในคืนวันศุกร์
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 35.75-35.90 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.57 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 120.67 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0927 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0915 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6530 บาท/ดอลลาร์
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมครั้งที่ 1/2559 ตลาดคาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
- กรมบัญชีกลางปลื้ม 4 เดือนแรกปีงบ 59 ผลงานฉลุย 1.04 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายลงทุนพุ่ง 8.81 หมื่นล้านบาท อวยส่วนราชการเตรียมความพร้อมจัดซื้อจัดจ้างล่วงหน้าดันผลงานใช้จ่ายดีเยี่ยม
- นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกในปี 59 มั่นใจว่าจะเติบโตเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 ปีโดยคาดว่าจะสามารถส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 218,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือเติบโตร้อยละ 2 จากปี 58 ที่หดตัวร้อยละ 5.8 นับเป็นการทดสอบฝีมือของภาครัฐ โดยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถผลักดันการส่งออกได้ดีกว่ารัฐบาลทุกยุคที่ผ่านมา
- นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ กำลังเร่งศึกษาผลกระทบและแนวทางเข้าร่วมภาคีความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) มั่นใจภายใน 1-2 เดือนนี้ จะได้ข้อมูลครบถ้วน จากนั้นจะเสนอให้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เพื่อเตรียเสนอให้รัฐบาลพิจารณากำหนดท่าทีต่อไป เบื้องต้นมีแนวความคิดว่า ให้บริษัทเอกชนที่ได้ประโยชน์จากข้อตกลงทีพีพีร่วมลงขันก่อตั้งกองทุน เพื่อใช้สำหรับเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการร่วมทีพีพี เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
- พาณิชย์ลงพื้นที่ตรวจห้างสินค้า พบลดจริงใน 13 กลุ่มสินค้า 112 รายการต่อหน่วยลงร้อยละ 1-25 ตามต้นทุนน้ำมันที่ได้แจ้งปรับราคาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เผยข่าวดี สินค้าลดราคาลงได้อีกหลังตรุษจีน
- นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทยและกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คนไทยตระหนักและให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิตมากขึ้น ห่วงสุขภาพตัวเองมากขึ้น และมองในทิศทางของการป้องกันมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคม ผู้สูงอายุแล้ว โดยคนไทยในภาพรวมที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 10 ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ คนเหล่านี้ต้องการความมั่นคงด้านสวัสดิภาพในวัยเกษียณ ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตปีที่ผ่านมาเติบโตประมาณร้อยละ 14 และมีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีคิดเป็นประมาณร้อยละ 3.8-3.9
- นางกุลนันท์ ซานไทโว กรรมการ ผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานลูกค้าบุคคล บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปีนี้แกว่งตัวระหว่าง 1,350-1,380 จุด และมีแนวโน้มที่อาจจะทบทวนกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ลง เพราะมีโอกาสที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะโตต่ำกว่าร้อยละ 3.2 ได้ เพราะยังมีความเสี่ยงจาก 4 ปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ สถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งหากรุนแรงจะบั่นทอนกำลังซื้อของเกษตรกร และประชาชนที่ปัจจุบันมีอยู่น้อยลดลงไปอีก
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลแรงงานจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,127.20 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังมีรายงานว่า รัสเซียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ม.ค. รวมทั้งรายงานจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ร่วงลง 1.74 ดอลลาร์ หรือ 5.5% ปิดที่ 29.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน มี.ค. ลดลง 1.52 ดอลลาร์ หรือ 4.4% ปิดที่ 32.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเงินเยนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสกุลเงินที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันที่ดิ่งลง โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0909 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0901 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.17 เยน จาก 121.09 เยน