ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทปิด 35.57 แกว่งกรอบแคบ นลท.รอติดตามรายงานการประชุมเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 17, 2016 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.57 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่
ระดับ 35.64/66 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยที่มีผลสำคัญต่อค่าเงินมากนัก เป็นเพียงแรงซื้อแรงขายตาม ปกติ ซึ่งคาดว่าตลาดรอดูรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ จะออกมาในคืนนี้

"วันนี้บาท move แคบๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรมากนัก เป็นแรงซื้อแรงขายปกติ ตลาดน่าจะรอดูรายงานการประชุมของ FOMC ที่จะออกมาในคืนนี้ก่อน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50-35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.95/96 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1128 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1139/1143 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,288.47 ลดลง 0.89 จุด (-0.07%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 44,949 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,901.52 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่
3 ก.พ.59 ที่ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยประเมินว่านโยบายการ
เงินในปัจจุบันยังอยู่ในระดับผ่อนปรนและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่พัฒนาการของเศรษฐกิจไทยและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์
ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังคงต้องระมัดระวังความเสี่ยงด้านเสถียรภาพการเงิน โดยเฉพาะจาก
พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า ภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน

พร้อมประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2559 จะมีอุปสงค์ในประเทศเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ขณะที่ความเสี่ยงต่อการฟื้น ตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไปโน้มไปด้านต่ำมากขึ้นจากปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ ทั้งด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก การ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินที่ต่างกันของ ประเทศอุตสาหกรรมหลัก

  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยดัชนีความความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค.59 อยู่
ที่ระดับ 86.3 ปรับตัวลดลงจากระดับ 87.5 ในเดือน ธ.ค.58 โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ได้แก่ ปัญหาภัยแล้ง, ปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ
เศรษฐกิจประเทศจีน รวมทั้งการเร่งการใช้จ่ายในช่วงเดือนก่อนหน้า และความกังวลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อภายในประเทศ
  • อธิบดีกรมสรรพสามิต คาดการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ ในปีงบประมาณ 59 จะสูงกว่า 5 แสนล้านบาท จากเป้า
หมายที่กำหนดไว้ 4.96 แสนล้านบาท เนื่องจากผลดีจากการปรับขึ้นภาษียาสูบในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 1 หมื่น
ล้านบาท รวมทั้งมีปัจจัยเสริมจากรายได้ภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ และภาษีบาปต่างๆ ที่มีทิศทางการจัดเก็บดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจด้วย

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาการจัดเก็บภาษีตัวใหม่ๆ และการปรับปรุงภาษีที่สำคัญ โดยเฉพาะภาษี สินค้าที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพ ทำลายสิ่งแวดล้อม และการพนัน

  • ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐเผยแผนการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศสมาชิกของสมาคม
ประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) โครงการดังกล่าวใช้ชื่อว่า U.S.-ASEAN Connect ถูกออกแบบมาเพื่อสร้าง
เครือข่ายของศูนย์กลางทั่วภูมิภาคสำหรับการเชื่อมโยงกลุ่มผู้ประกอบการ, นักลงทุน รวมถึงธุรกิจต่างๆ ของทั้ง 2 ซีกโลก
  • กระทรวงการคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า ในเดือนธ.ค.58 จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐลดลง 1.84 หมื่นล้านดอลลาร์
สหรัฐ มาสู่ระดับ 1.2461 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ในเดือนก่อนหน้านี้จีนถือครองเพิ่มขึ้น 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ยอด
รวมการถือครองพันธบัตรสหรัฐของต่างชาติในเดือน ธ.ค.58 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.1658 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.1257 ล้าน
ล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.58
  • กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า เม็ดเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) ของจีนในเดือน ม.ค.59 ปรับ
ตัวเพิ่มขึ้น 18.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 1.202 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยการขยายตัวส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคการ
ผลิต ซึ่งพุ่งขึ้น 90% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.62 พันล้านดอลลาร์ในเดือน ม.ค.

ทั้งนี้ การขยายตัวของเม็ดเงิน ODI ได้รับแรงกระตุ้นจากการควบและรวมกิจการ รวมถึงเขื่อนสามผาของจีนที่มียอด การใช้จ่ายเงินจำนวน 3.7 พันล้านดอลลาร์ในเดือนที่ผ่านมาสำหรับสิทธิในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่งในบราซิลเป็น ระยะเวลา 30 ปี

  • ติดตามการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ เช่น รายงานการประชุมคณะ

กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค

(CPI) เดือนม.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.เป็นต้น


แท็ก เงินบาท   เฟด  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ