นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับเปิดตลาด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินในภูมิภาคในกรอบ 35.60-35.65 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจาก
ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ส่วนตัวเลขเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมานั้นเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้
"ปิดตลาดทรงตัวเท่าช่วงเช้า ระหว่างวันเคลื่อนไหว 5 สตางค์ตามภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเข้ามา" นักบริหาร
เงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดวันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.55-35.70 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
"พรุ่งนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบรอปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.12 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.25 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0883 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,346.95 จุด เพิ่มขึ้น 14.58 จุด, +1.09% มูลค่าการซื้อขาย 41,524.86 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 193.18 ล้านบาท(SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน ก.พ.59 อยู่ที่ 105.62 หดตัว -0.50% เมื่อเทียบกับ
เดือน ก.พ.58 และหากเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ม.ค.59) ขยายตัว 0.15% มีผลให้ CPI เฉลี่ยช่วง 2 เดือนแรก หดตัว -
0.52% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือน ก.พ.59 อยู่ที่ 106.37 ขยายตัว 0.68% เมื่อเทียบกับเดือน ก.
พ.58
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทิศทางของเงินเฟ้อไทยได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดของวัฏจักรรอบนี้มาแล้ว โดยจุดต่ำสุดของอัตรา
เงินเฟ้ออยู่ที่ -1.27% YoY ในเดือน พ.ค.58 และในช่วงหลังจากนี้จะเริ่มทยอยมีอัตราติดลบน้อยลง โดยคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่ว
ไปจะเริ่มกลับมายืนในแดนบวกได้ในช่วงประมาณกลางปีนี้ หรือช่วงต้นๆ ของครึ่งปีหลัง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็จะไล่ระดับสูงขึ้น
ไปยืนเหนือ 1.0% YoY ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่มีค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อที่สูงที่สุดของปี
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) สรุปภาพรวมเศรษฐกิจเดือนมกราคม 2559 ยังคงเริ่มต้น
ไม่สดใส สะท้อนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบทุกภาคส่วนแผ่วลงจากเดือนก่อน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเป็นภาคเศรษฐกิจเดียวที่ยัง
คงมีโมเมนตัมเติบโตได้ต่อเนื่อง
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2559
ครั้งที่ 1 มีการปรับปรุงวงเงินใหม่เป็น 1,619,522 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,857 ล้านบาท จากเดิมที่ 1,591,664 ล้านบาท
- บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น (TUC) ในเครือ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) คาดว่าจะ
สามารถจ่ายเงินค่าใบอนุญาต 4G บนคลื่นความถี่ 900 MHz ในงวดแรก พร้อมวางแบงก์การันตีงวดที่เหลือได้ภายใน 1-2 สัปดาห์
หลังเซ็นสัญญากับ 6 สถาบันการเงินเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงินในวันนี้
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% สู่ระดับ
17% สำหรับธนาคารขนาดใหญ่ โดยมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (1 มี.ค.) โดยการปรับ RRR ลงครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มสภาพคล่องใน
ตลาดการเงิน และกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ภายหลังจากที่ราคาหุ้นจีนร่วงลงและเงินหยวนอ่อนค่า ซึ่งนับเป็นครั้งที่
5 ตั้งแต่เดือนก.พ.58
- นายจุน นี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ เปิดเผยว่า ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวล
รวมภายในประเทศ (จีดีพี) อย่างเป็นทางการของจีน ยังคงเป็นปัจจัยชี้วัดที่มีความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ
ประเทศ และบ่งชี้ภาพรวมเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี
- ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการ
คาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยธนาคารกลางระบุว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่ง
ได้รับแรงกดดันอยู่แล้วจากการจ้างงานและการลงทุนที่อ่อนแรงลง
- สำนักงานคณะกรรมการงบประมาณแห่งสภาผู้แทนราษฎรของญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณสำหรับปี 2559 มูลค่า 96.72
ล้านล้านเยน หรือ 8.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปีงบประมาณ 2559 จะเริ่มขึ้นในเดือนเม.ย.นี้
- รัฐบาลญี่ปุ่น เผยมูลค่าการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นช่วง ต.ค.-ธ.ค.58 เพิ่มขึ้น 8.5% เทียบรายปี แต่ยังน้อยตัวไตร
มาส 3 ที่ขยายตัวได้ดีถึง 11.2% ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยเป็นการลงทุนของธุรกิจนอกภาคการเงิน เช่น
การลงทุนเพื่อสร้างโรงงาน และการซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ คิดเป็นมูลค่า 10.53 ล้านล้านเยน (9.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตร
มาส 4/2558 ส่วนการลงทุนในภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 10.2% ในไตรมาส 4/2558 เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.66 ล้านล้านเยน
- สำนักงานสถิติอินโดนีเซีย เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้นแตะ 4.42% ในเดือนก.พ. จากปีก่อนหน้านี้ เมื่อ
เทียบกับเดือนม.ค. เนื่องจากราคาอาหารปรับตัวขึ้น แต่เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ลดลง 0.09% ซึ่งหดตัวลงจาก 0.51% ใน
เดือนม.ค. เนื่องจากราคาอาหารและค่าไฟฟ้าปรับตัวลง สหรับดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวนและอยู่ใน
การควบคุมของรัฐบาล ทรงตัวที่ระดับเดียวกับในเดือนม.ค.ที่ 3.62%
- ผลสำรวจของมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 51.2 ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบกับรายงานเบื้องต้นที่ 51.0 และตัวเลขเดือนม.ค.ที่ 52.3 ขณะที่อัตราการผลิต ยอดคำสั่งซื้อใหม่ การส่งออก และการ
จ้างงานนั้น ได้ชะลอตัวลงทั้งหมด โดยฝรั่งเศสและเยอรมนีเริ่มใกล้ภาวะซบเซา ขณะที่กรีซกลับไปหดตัวอีกครั้ง
- ผลสำรวจของมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของอิตาลีในเดือนก.พ.ลดลงแตะ 52.2 ซึ่ง
ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน จาก 53.2 ในเดือนม.ค. ขณะที่ผลผลิตภาคการผลิตของอิตาลีในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นในอัตราช้าสุดใน
รอบกว่า 1 ปี ซึ่งสะท้อนถึงคำสั่งซื้อใหม่ที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง
- ผลสำรวจของมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของฝรั่งเศสในเดือนก.พ.ขยับขึ้นสู่ระดับ
50.2 จาก 50.0 ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยของภาวะการดำเนินงานในภาคการผลิต ขณะที่ผลผลิตในภาคการ
ผลิตของฝรั่งเศสปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ท่ามกลางการร่วงลงต่อเนื่องของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานทรงตัว
- ผลสำรวจของมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเยอรมนีในเดือนก.พ. ร่วงลงแตะระดับ
ต่ำสุดในรอบ 15 เดือนที่ 50.5 เมื่อเทียบกับ 52.3 เมื่อเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการผลิตนั้นชะลอตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.
2557 ขณะที่อัตราการจ้างงานปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีครึ่ง