นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้
อยู่ที่ระดับ 35.41 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวสวนทางกับภูมิภาค เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร
"เช้านี้บาทแข็งค่าสวนทางกับภูมิภาค เนื่องจากมี flow เข้ามาในตลาดหุ้นและพันธบัตร แต่น่าจะเป็นช่วงสั้นๆ หาก ภูมิภาคมีแนวโน้มอ่อนค่า วันนี้แบงก์ชาติอาจเข้ามาดูแลไม่ให้บาทแข็งค่าจนเกินไป" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.30-35.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.85 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0979 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1028 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.4460 บาท/
ดอลลาร์
- ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติยันจังหวะนี้ควรใช้นโยบายการคลังดูแลเศรษฐกิจมากกว่านโยบายการเงิน เผยเดือน ธ.ค.ที่ผ่าน
มา เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงชัดเจนขึ้นตามคาดทั้งต่างประเทศและภัยแล้ง เผยเตรียมลดประมาณการจีดีพี พร้อมร่วมกับรัฐบาลผลัก
ดันแผนพัฒนาดิจิตอลฯ
- ธปท.เร่งสรุปผลศึกษาฟินเทค ก่อนนำเข้าหารือกับคลัง มองส่งผลดีทำให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น แต่ต้อง
ดูแลให้รัดกุม ระบุยังไม่ให้เอกชนเปิดบริการ ส่วนบริษัทสตางค์ดีขอให้งดบริการไว้ก่อน
- นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาย
ในสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ธปท.จะเสนอแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 4 ที่จะใช้ในปี 60 เกี่ยวกับการบริการผ่านเทคโนโลยีสมัย
ใหม่ที่สนับสนุนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ ครม.รับทราบ ซึ่งประกอบด้วยโครงการเนชั่นแนลอี-เพย์เมนท์ เป็นระบบการชำระเงิน
แบบเลขใดก็ได้ (แอนนี่ ไอดี) ทั้งเลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อี-วอลล์เลท ไอดี และอีเมล
แอดเดรส ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดของระบบในปัจจุบันและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ภาคส่วนต่างๆ
- นายแบงก์หวั่นเศรษฐกิจไทยไม่ฟื้นตามคาด เหตุผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น ชี้แนวโน้ม GDP ไทยปีนี้อาจเติบโตในทิศ
ทางขาลง 2.5% กดดันธนาคารวางมาตรการเข้มป้องกัน NPL พุ่ง ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยาย
ตัว 3.6% จากรัฐกระตุ้นลงทุน ขณะอัตราการเติบโตของบจ. 640 แห่งเฉลี่ย 8% ใกล้เคียงตลาดหุ้นโลกที่ 8.5%
- คลังเกาะติดจ่ายเงินงวดแรกค่าใบอนุญาตคลื่น 900 หลังแจสถูกจับตา ระบุต้องเตรียมหวั่นกระทบรายได้ภาครัฐ ขณะ
ที่ตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบการซื้อหุ้นคืนของจัสมิน หลังประกาศแผนตั้งโต๊ะรับซื้อวงเงิน 6 พันล้านบาท
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า
สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 3.7% แตะที่ระดับ 36.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญา
น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.9% แตะที่ระดับ 39.65 ดอลลาร์/
บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นแข็ง
แกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ข้อมูลการค้าที่ย่ำแย่ของจีนยังส่งผลให้ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซา โดยสัญญา
ทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลบ 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% แตะที่ระดับ 1,262.90
ดอลลาร์/ออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลการค้าจีนที่อ่อนแอได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
ทั่วโลกและกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1007
ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1012 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 112.57 เยน จาก
113.28 เยน