นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ
35.34 บาท/ดอลลาร์
แนวโน้มเงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่าได้อีก เนื่องจากมีการซื้อดอลลาร์จาก speculator hedging โดยที่ต้องติดตาม วันนี้ คือ การประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่
"บาทยังมีโอกาสลงต่อได้อีก เพราะถ้าหลุดจาก 35.23/24 ไปก็มีโอกาสจะได้เห็นที่ระดับ 35.10 กว่าๆ ได้ ปัจจัยที่ ทำให้บาทแข็งค่า เพราะมีการซื้อดอลลาร์จาก speculator hedging" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.20-35.35 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.2800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(9 มี.ค.) อยู่ที่ 1.52339% และ THAI BAHT FIX 6M (9 มี.ค.) อยู่ที่ 1.62503%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.56/61 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 112.45 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.0982/0987 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.09363 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.3590 บาท/
ดอลลาร์
- นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า
ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ จัดทำแผนประชาสัมพันธ์และรณรงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องการบริการระบบการ
ชำระเงินผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สนับสนุนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และ และการใช้ Any ID หรือการแสดงตัวตนทางการเงินด้วย
หมายเลขโทรศัพท์ หรือเลขบัตรประชาชนแทนการใช้หมายเลขบัญชี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ
ชาติ และการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิตอล รวมทั้งให้ธนาคารพาณิชย์ไปจัดทำแผนการบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากระบบไอที และการ
ให้บริการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และความปลอดภัยของระบบและส่งกลับมาให้ ธปท.
พิจารณาภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้
- กนอ.เร่งหาพื้นที่เขตอีสเทิร์นซีบอร์ดรับซุปเปอร์คลัสเตอร์ ต่อยอดอุตฯขั้นสูงยานยนต์-ไฟฟ้า-ปิโตรเคมี คาด 2
สัปดาห์เสร็จ ชง 'สมคิด' อนุมัติ เผยนิคมอุตฯยางหรือรับเบอร์ซิตี้ เอกชนรายเล็ก-ใหญ่สนลงทุนแล้ว 17 ราย วางเป้าหมาย 3 ปี
พื้นที่เต็ม
- นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มีการประกาศใช้
ม.44 ให้โครงการของรัฐบาล จะสามารถเปิดประกวดราคาได้โดยไม่ต้องรอผ่านการวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)
ว่า คำสั่งที่ออกมาจะส่งผลบวกกับโครงการที่ปัจจุบันยังติดอยู่ในการพิจารณาของอีไอเอ ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ ดังนั้น
การประกาศใช้ ม.44 จะทำให้กระทรวงคมนาคมสามารถเดินหน้าประกวดราคาและจัดหาผู้รับเหมาได้ ทำให้งานโครงการต่างๆที่คั่ง
ค้างเดินหน้าต่อไปได้ทันที
- อากาศร้อนดันใช้ไฟฟ้า “พีค" ปีนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 8 มี.ค. และล่าสุด 9 มี.ค.ทะลุ 26,215 เมกะวัตต์ กฟผ.ยันรับมือ
ได้แม้พีคจะรุนแรงต่อเนื่องจนถึงเดือน พ.ค. ขณะที่คณะทำงานพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟเกาะติดพีคเศรษฐกิจใกล้ชิด แต่ภาพรวม
สำรองยังสูงมั่นใจไร้ปัญหา
- เริ่มแล้ววันนี้ "มหกรรมบ้าน-คอนโด" บิ๊กเนมกลาง-เล็ก อสังหาฯ ตบเท้าพรึ่บร่วมแจมคึกคัก โดยเฉพาะโปรโมชั่น
สุดพิเศษที่มีเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ลด แลก แจก แถม ไม่อั้น หวังกระตุ้นยอดขายบ้านในงานนี้
- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุน
จับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มอีกหรือไม่
- นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ โดยคาดว่า ECB อาจทำการเพิ่มวงเงิน
ในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน นอกจากนี้ คาดว่า ECB
อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่ ECB จากขณะนี้ที่ระดับ -0.3% โดยธนาคาร
พาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB
- นายจุน นี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ กล่าวว่า ข้อมูลของผลิตภัณฑ์มวล
รวมภายในประเทศ (จีดีพี) อย่างเป็นทางการของจีนมีความสอดคล้องกับความแข็งแกร่งโดยรวมของเศรษฐกิจจีน และยังคงเป็นดัชนี
ที่มีประโยชน์และเชื่อถือได้ในการบ่งชี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งนับเป็น
เดือนที่ 9 ติดต่อกันที่ธนาคารกลางตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ การตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ มีความสอดคล้องกับการ
คาดการณ์ของตลาด อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เนื่องจากการส่งออกซบเซาลง
และกิจกรรมด้านการผลิตชะลอตัวลง
- รายงานของธนาคารโลก ระบุว่า การขยายตัวของการนำเข้าภาคสินค้าในระดับโลกได้ชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.7% ใน
ปี 58 ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และปัญหาในประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ ได้เป็นปัจจัยทำให้ปริมาณการค้า
ในตลาดโลกลดน้อยลง ทั้งนี้การลดลงของการนำเข้าสินค้าในปีที่แล้ว ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะชะลอตัวของการนำเข้าของกลุ่มประเทศ
ในตลาดเกิดใหม่ และหากการนำเข้าของจีนทรงตัวโดยไม่ได้ปรับตัวลง การขยายตัวของการนำเข้าภาคสินค้าในระดับโลกก็จะเพิ่มขึ้น
สู่ระดับ 2.1% ในปีที่แล้ว
- ทางการจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก
เดือนม.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 1.8% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ร่วงลง 4.9% เมื่อเทียบ
รายปี ในเดือนก.พ.
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะ
สามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศ
ด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐทั้งในปีนี้และปีหน้า
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 4.9% แตะที่ 38.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 3.6% แตะที่ 41.07 ดอลลาร์/บาร์เรล