นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการ นบข. รับคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการ นบข.เห็นชอบให้กรมการค้าต่างประเทศเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐปริมาณกว่า 6 แสนตัน เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ตลาดข้าวปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการข้าวขาวและปลายข้าวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีการนำเข้าข้าวสาลีเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนปลายข้าวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ข้าวหอมมีราคาต่ำลงและสต็อกข้าวหอมในมือโรงสีและผู้ส่งออกมีปริมาณมาก จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่จะนำข้าวในสต็อกของรัฐบางส่วนออกมาระบาย เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาข้าวของภาครัฐ โดยมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับและราคาตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
โดยการเปิดประมูลข้าวในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 2 ของปีนี้ ประกอบด้วย
1.การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 2/2559 ปริมาณ 4.18 แสนตัน เป็นชนิดข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานและใกล้เคียงมาตรฐาน (ระดับคุณภาพเกรด P/A/B) ประกอบด้วย ข้าวขาว 5% 10% 15% 25% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวปทุมธานี ปลายข้าว (เหนียว) A1 ปลายข้าว A1เลิศ ปลายข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมมะลิ และข้าวท่อนหอมปทุม รวมจำนวน 66 คลัง ใน 26 จังหวัด
2.การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 2/2559 ปริมาณ 2.23 แสนตัน เป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด ประกอบด้วย ข้าวขาว 5% ปลายข้าว (เหนียว) A1 และปลายข้าว A1 เลิศ รวมจำนวน 22 คลัง ใน 9 จังหวัด
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศกำหนดให้ผู้สนใจเข้ามารับฟังการชี้แจงเงื่อนไขการประมูล (TOR) ดังกล่าวในวันที่ 18 มีนาคม 2559 เวลา 13.00 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารกองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ โดยจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าดูสภาพข้าวในคลัง ระหว่างวันที่ 18-24 มีนาคม 2559 เวลา 09.00-16.00 น. (เว้นวันหยุดราชการ) ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเงื่อนไขการประมูลของประกาศทั้ง 2 ฉบับได้ที่ www.dft.go.th โดยรายละเอียดคุณสมบัติและเงื่อนไข การประมูลของประกาศทั้ง 2 ฉบับ ยังคงหลักการเดิมเช่นเดียวกับการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ครั้งที่ 1/2559
สำหรับการประมูลข้าวในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไปและเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2559 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้ผู้ชนะการประมูลอยู่ระหว่างขั้นตอนการทำสัญญาระหว่าง องค์การคลังสินค้า (อคส.)/องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตามที่ นบข. ให้ความเห็นชอบ