ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.10/13 อ่อนค่าจากแรงซื้อดอลล์ ประเมินกรอบพรุ่งนี้ 35.10-35.30

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 23, 2016 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.10/13 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาด ที่ระดับ 34.93/95 บาท/ดอลลาร์

ตั้งแต่ช่วงเที่ยงเงินบาทกลับไปอ่อนค่าจากช่วงเช้า เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์จากฝั่ง offshore ค่อนข้างมาก เนื่อง จากประเมินล่วงหน้าไว้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) รอบนี้จะคงอัตราดอกเบี้ย จึงรีบเข้ามาซื้อดอลลาร์ไว้ก่อนที่บาทจะ แข็ง ซึ่งเมื่อมีการซื้อดอลลาร์มาก จึงทำให้บาทปรับตัวอ่อนค่าลง

"ตั้งแต่เที่ยงฝั่ง offshore เข้ามาซื้อดอลลาร์มาก เพราะเชื่อว่า กนง.จะ hold rate จึงรีบซื้อไว้ก่อนที่บาทจะ แข็ง พอซื้อเยอะๆ บาทเลยกลับไปอ่อน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.10 - 35.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.67/68 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.25/28 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร เย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1188/1192 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1214/1218 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,412.16 เพิ่มขึ้น 14.96 จุด (+1.07%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 52,685 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 437.72 ลบ.(SET+MAI)
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดย
คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม แต่เห็นว่านโยบายการเงินในปัจจุบันยังอยู่
ในระดับที่ผ่อนปรน และควรรักษาขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย (Policy space) ไว้ แต่ กนง.พร้อมจะใช้เครื่องมือเชิง
นโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้เหลือเติบโต
3.1% จากเดิมคาดเติบโต 3.5% เนื่องจากการส่งออกหดตัวลงมากกว่าที่คาด โดยประเมินว่าการส่งออกในปีนี้จะหดตัว -2.0% และ
จะฟื้นตัวเป็นบวกได้ 0.1% ในปี 2560 ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจในปีหน้าขยายตัวราว 3.3%
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบ
ประมาณ 2559 (ตุลาคม 2558 - กุมภาพันธ์ 2559) พบว่าจัดเก็บได้ 898,061 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบ
ประมาณ 43,876 ล้านบาท หรือ 5.1% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 9.8%) เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการนำส่งรายได้ของ
หน่วยงานอื่นที่สูงกว่าประมาณการ การบริโภคภายในประเทศที่ยังคงขยายตัวได้ และผลจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ
รัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดว่าในไตรมาส 2/2559 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติจะมีนัก
ท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 7.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.56% และโดยรวมในปี 2559 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด
ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 33.83 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.22% จากปี 2558 ทำให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ
1.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.95%
  • ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุว่า เศรษฐกิจเอเชียยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจ
จีนอยู่ในภาวะชะลอตัวลงเนื่องจากการลงทุนที่มากเกินไป ซึ่งภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
เพราะจีนมีอิทธิพลอย่างมาก แต่สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลดีบางประการ โดยทำให้ราคาทรัพยากรปรับตัวลดลง
  • สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนอาจจะเรียเก็บภาษีโทบิน (Tobin Tax) เพื่อ
สกัดการไหลออกของกระแสเงินทุนหมุนเวียนข้ามพรมแดนระยะสั้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นโยบาย เพราะมองว่าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออก และสร้างแรงกดดันต่อการบริหารจัดการ
เงินหยวน
  • ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4% ต่อปี ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการตรึงดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 พร้อมกับคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในเดือน พ.ค.นี้จะช่วยให้มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจของ

ฟิลิปปินส์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ