ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 35.24 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังข่าวเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 30, 2016 16:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 35.31/33 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค หลังมีการย่อยข่าวนางเจนเน็ต เยนเลน ประธานเฟดส่งสัญญาณว่า ยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"หลังเปิดบาททิศทางยังทรงตัว แต่ระหว่างวันปรับแข็งค่าลงมาเกือบ 15 สตางค์ คาดว่ามีการย่อยข่าวประธานเฟด ส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 35.20-35.35 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทปรับตัวแข็งค่าลงมามาก พรุ่งนี้ยังไม่น่าจะผ่านแนวรับ 35.20(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.2100 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.22 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.61 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1360 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1286 ดอลลาร์/ยูโร
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า (5 เม.ย.)
กระทรวงการคลังอาจจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมให้ ครม.ได้พิจารณา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ใน
ขณะนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การแจกเงิน

"ครม.สัปดาห์หน้า คลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งเด็ดกว่าการแจกเงิน แต่ไม่ใช่การแจกเงิน และ ไม่ใช่การกระตุ้นเพียงเล็กน้อย"ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุ

  • สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เผบบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Japan Credit Rating Agency,
Ltd. (JCR) ได้ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency Long-
Term Issuer Rating) และสกุลเงินบาท (Local Currency Long-Term Issuer Rating) ที่ระดับ A- และ A ตาม
ลำดับ และคงเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไว้ที่ระดับ A+ รวมทั้งคงสถานะแนวโน้มความน่าเชื่อถือของประเทศไทยไว้ที่
ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผย
เศรษฐกิจไทยในเดือนก.พ.59 ได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนที่ขยายตัวได้ในระดับสูงที่ 36.9%
และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ขยายตัวได้ดีที่ 16% ประกอบกับการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภายในประเทศเริ่มมี
สัญญาณดีขึ้นบ้างในหมวดการลงทุนภาคเอกชน แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนยังคงมีการชะลอตัว ซึ่ง สศค.จะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

พร้อมระบุว่า ในเดือนเม.ย.นี้ สศค.จะปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยใหม่จาก ปัจจุบันที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.2-4.2% แต่ยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้มากกว่า 3% อย่างแน่นอน

  • นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโสประจำประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยว่า ADB ประเมิน
ว่าในปี 59 นี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในอัตรา 3% ก่อนจะเร่งตัวขึ้นเป็น 3.5% ในปี 60 โดยอยู่บนสมมติฐานว่าการลงทุนโครง
สร้างพื้นฐานเป็นไปตามกำหนดที่วางไว้ สถานการณ์ทางการเมืองมีความสงบเรียบร้อย และสามารถมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ในปี 60

สำหรับอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ADB คาดว่าจะอยู่ในระดับเฉลี่ยที่ 0.6% ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2% ในปี 60 หลังจากที่อุปสงค์ ภายในประเทศเข้มแข็งขึ้นและราคาน้ำมันสูงขึ้น ขณะที่นโยบายการเงินคาดว่าจะยังมีลักษณะผ่อนคลายต่อไปเนื่องจากแรงกดดันเงิน เฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

  • นายเว่ย ชางจิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดภาวะเศรษฐกิจประเทศกำลัง
พัฒนาในเอเชียจะเติบโตขึ้น 5.7% ในปี 2559 และ 2560 โดยในปี 2558 อ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 5.9% เนื่องจากความผันผวนที่กิด
ขึ้นทั่วโลกและการเติบโตในระดับปานกลางของเศรษฐกิจจีน จากก่อนหน้านี้ที่ ADB คาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในเอเชีย
ปี 2559 ไว้ที่ 6%
  • ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศปรับเพิ่มเงินทุนกันชน (capital buffer) ซึ่งกำหนดให้สถาบันการเงินต้องมีทุน

สำรองระหว่าง 0-0.5% การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์ และสะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการ

นโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (FPC) ได้ใช้มาตรการทางเศรษฐกิจมหภาคอย่างรอบคอบรัดกุม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ