นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่พร้อมกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมวิชาการเกษตร จัดสัมมนาให้ความรู้แก่เกษตรกรทั่วภาคอีสาน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวและมันสำปะหลังที่สำคัญของไทย โดยมีผู้แทนสภาเกษตรกรจาก 20 จังหวัด ในภาคอีสานกว่า 150 คน เข้าร่วมการสัมมนาที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเป้าหมายเพื่อให้รับทราบและรู้จักความตกลง TPP รวมถึงสร้างความเข้าใจเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชและอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนสภาเกษตรกร
นายวินิจฉัย กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้ได้รับทราบข้อเสนอมาตรการที่ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุน อาทิ ให้มีศูนย์เพาะเมล็ดพันธุ์ชุมชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่น ข้าว เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่สูงโดยใช้ต้นทุนต่ำ ให้ความรู้ด้านแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม มาตรการรักษาเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว และมันสำปะหลัง และการจัดตั้งกองทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาในการเพิ่มผลผลิต ตลอดจนส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก นอกจากนี้ เกษตรกรได้ชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ในการทำงานเข้าถึงชุมชนเกษตรกรในต่างจังหวัด และอยากให้กระทรวงฯ สานต่อการทำงานเชิงรุกและบูรณาการการทำงานร่วมกับสภาเกษตรกรในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้าและชี้ช่องทางการใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA ของไทย
ส่วนประเด็นข้อห่วงกังวลของภาคเกษตรกรโดยเฉพาะการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่นั้น เกษตรกรยังคงสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์พืชใหม่ไว้ใช้สำหรับเพาะปลูกในฤดูกาลต่อไปได้ และสามารถแบ่งปันผลประโยชน์ได้ ซึ่งช่วยให้คลายข้อกังวลได้ สำหรับเรื่อง GMOs ในความตกลง TPP กำหนดให้มีการแลกเปลี่ยนและเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้น ดังนั้นไทยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังได้รับทราบข้อกังวลจากผู้เข้าร่วมการสัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบต่อพันธุ์พืชท้องถิ่นที่อาจสูญหายจากการปรับปรุงพันธุ์ และยังขาดขีดความสามารถในการพัฒนาพันธุ์พืชให้ทัดเทียมกับต่างชาติ รวมทั้งกระบวนการตรวจสอบพันธุ์พืชใหม่ที่ขอรับการคุ้มครองของไทย ซึ่งกระทรวงฯ ยินดีรับไปประสานกับหน่วยงานที่กำกับดูแลต่อไป
นายวินิจฉัย กล่าวว่า ในเร็วๆนี้จะลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อรับฟังความเห็นของเกษตรกรและให้ข้อมูลเกี่ยวกับความตกลง TPP ตามแนวทางของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการดำเนินการเรื่องความตกลง TPP อย่างรอบคอบ โปร่งใส และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนประกอบการพิจารณาเสนอแนะต่อรัฐบาลในลำดับต่อไป