ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.18/20 ยังแข็งค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า มองกรอบพรุ่งนี้ 35.10-35.30

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 7, 2016 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 35.18/20 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่องจากตอนเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 35.21/23 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทดสอบระดับ High ที่ 35.24 บาท/ดอลลาร์ ช่วงประมาณ 11.00 น.

"สำหรับทิศทางวันพรุ่งนี้ประเมินค่อนข้างยาก เบื้องต้นยังให้กรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 35.10-35.30 บาท/ ดอลลาร์เหมือนเดิม"นักบริหารเงิน คาด

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.16/19 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 109.36/38 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1398/1.1402 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1394/1398 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,356.69 จุด ลดลง 16.90 จุด, -1.23%
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,849.05 ลบ.(SET+MAI)
  • บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เตรียมทบทวนคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 59
ในเดือน มิ.ย.นี้ โดย GDP มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดิมที่คาดไว้ในระดับ 3% และมูลค่าการส่งออกจากเดิม 0% เนื่องจากมีปัจจัย
เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากที่เคยประมาณการไว้ โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และปัญหาภัยแล้ง
  • ธนาคารออมสิน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs และสอดคล้องกับ
ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยลดอัตราดอกเบี้ย MRR : Minimum Retail Rate ดอกเบี้ยที่เงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี ลงอีก
0.35% ต่อปี จากเดิม 7.475% ต่อปี เป็นอัตรา 7.125% ต่อปี และลดอัตราดอกเบี้ย MLR : Minimum Lending Rate ซึ่งเป็น
ดอกเบี้ยที่เงินกู้ขั้นต่ำประเภทเงินกู้ที่มีระยะเวลา ลงอีก 0.2% ต่อปี จากเดิมอัตรา 6.700% ต่อปี เป็นอัตรา 6.500% ต่อปี ซึ่งการ
ลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2559 เป็นต้นไป
  • ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Bank ประกาศลดอัตรา
ดอกเบี้ยเงินกู้ 0.125-0.625% เพื่อช่วยเหลือลูกค้าซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 70,000 กว่าราย จะทำให้ลูกค้ามีต้นทุน
ทำธุรกิจที่ต่ำลง สามารถมีสภาพคล่องใช้หมุนเวียนในกิจการ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศได้ด้วย โดยมีผล
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2559
  • นายเกรียงไกร ทำนุทัศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เออีซี (AEC) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
ในเดือน เม.ย.59 ยังคงปรับตัวในแดนบวกอย่างต่อเนื่อง SET มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,440 จุด สูงสุดในรอบครึ่งแรกของปี
59 โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก ปริมาณซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างประเทศปรับเพิ่มสู่ระดับ 3.3 หมื่นล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 15 ก.
พ.59 เป็นระดับซื้อสะสมที่ทำจุดสูงสุดใหม่หลังการปรับพอร์ต จากการคำนวณ Foreign Cost เฉลี่ยปรับเพิ่มเป็น 1,370 จุด ซึ่ง
คาดการณ์ว่า SET จะต้องมีการปรับขึ้นสู่ 1,440 จุด เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศ ได้ Adjusted Returns ที่ 5%
  • กระทรวงการคลัง จัดงานสัมมนาโครงการ CCO-MOF สัญจร ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2559 ขานรับ
นโยบาย "ปีแห่งการลงทุน" เพื่อสื่อสารนโยบายของกระทรวงการคลังไปสู่ผู้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่นการ
ขับเคลื่อนนโยบายในการดำเนินงานของกระทรวงการคลัง รวมถึงสร้างแนวทางและเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนของภาคเอกชน
ให้นำไปสู่การเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืน
  • ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 1.028 หมื่นล้านดอลลาร์
สหรัฐ สู่ระดับ 3.21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมี.ค.
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงระดับการประเมินเศรษฐกิจทั้ง 8 เขต จากทั้งหมด 9 เขตเศรษฐกิจของประเทศ
ตั้งแต่เดือน ม.ค. ยกเว้นเขตโตโฮกุที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่

BOJ ยังคงมุมมองแบบเดิมไว้ว่าเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง หรือไม่ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว แม้ ในบางเขต อาทิ ชูโกคุ และคิวชู จะลดระดับความสำคัญในการประเมินการผลิต และการลงทุนในที่อยู่อาศัยลง

  • นายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับสกุลดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุด
ในรอบ 17 เดือน โดยกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการหากเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อรับมือกับอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์/เยนที่มีการ
เคลื่อนไหวแบบด้านเดียว

แท็ก เงินบาท  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ