นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.43/45 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาด ที่ระดับ 35.43/44 บาท/ดอลลาร์
"สุดสัปดาห์ไม่มีปัจจัยใหม่ คาดว่าตลาดน่าจะรอจีดีพีไตรมาส 1/59 ของไทย และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค.ดัชนีราคาผู้บริโภค ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอด ขายบ้านมือสอง การผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนเม.ย." นักบริหารเงิน กล่าว
ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินระหว่าง 35.30-35.60 บาท/ดอลลาร์
"แนวรับให้ไว้ 35.40 ถ้าหลุดก็น่าจะไปทดสอบ 35.30 ส่วนแนวต้านแรก 35.50 ถ้าผ่านไปได้ แนวต้านถัดไป 35.60"นักบริหารเงิน กล่าว
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.4167 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (13 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.39600% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (13 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.50646%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.78/81 เยน/เดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 108.80 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1307/1.1311 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1345 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.3900 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (16-20 พ.ค.)ที่ 35.30-35.60 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยตลาดในประเทศรอจับตารายงานจีดีพีไตรมาส 1/59 ของไทย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขาย
บ้านมือสอง การผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนเม.ย. และบันทึกการประชุมเฟดในรอบเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนอาจ
ติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจจีน ซึ่งจะมีการทยอยประกาศในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำไตรมาส
แรก ปี 2559 พร้อมปรับประมาณการเศรษฐกิจทั้งปี 2559 จากครั้งที่ผ่านมาคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.8-3.5%
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตัวเลขคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก และแนว
โน้มปี 59 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะแถลงในวันที่ 16 พ.ค.นี้ คาดว่าจีดีพีไม่น่าจะ
ต่ำไปกว่า หรือใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งขยายตัว 3% โดยข้อมูล ที่จะออกมานี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสะท้อนสิ่งที่
รัฐบาลได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐ โครงการที่ไปยังเศรษฐกิจฐานราก
- แบงก์พาณิชย์ดีเดย์วันนี้เปิดให้บริการบัตรเดบิตติดชิปการ์ดสกัดโจรกรรมข้อมูล ขณะที่เอทีเอ็มแถบแม่เหล็กใช้ได้ถึงปี
62 เอทีเอ็มติดชิปเหลือแค่แบงก์รัฐที่ให้บริการ ด้านแบงก์พาณิชย์แห่ออกบัตรใหม่พ่วงสิทธิประโยชน์-ประกัน โขกค่าธรรมเนียมรายปี
เพิ่ม
- บริษัท สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำของโลกมีมุมมองต่อธนาคารอาเซียนมี
เสถียรภาพ เพราะมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะต้านทานกับปัญหาเศรษฐกิจโลกในปี 2559
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน
มี.ค.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์
- นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ กล่าวเตือนประชาชนชาวอังกฤษเมื่อวันเสาร์ว่า การออกจากสหภาพ
ยุโรป (Brexit) เป็นสิ่งสุดท้ายที่ควรทำในแง่ของเศรษฐกิจ และการลงประชามติสนับสนุนให้อังกฤษออกจากสหภาพยุโรปนั้น อาจทำ
ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้
- นายยานนิส สตูร์นาราส ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลกรีซจะสามารถทำข้อตกลงกับ
กลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 พ.ค.นี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนวันศุกร์ ( 13 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แคนาดา
เริ่มกลับมาผลิตน้ำมันดิบอีกครั้ง หลังจากที่แหล่งผลิตน้ำมันในฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ของแคนาดาได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าใน
ช่วงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการก่อน
หน้านี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 49 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 46.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ
เบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนวิตก
กังวลว่า ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งของสหรัฐอาจเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้
โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่
1,272.70 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.65%