นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.49/50 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดที่ระดับ 35.38 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า และมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามา ระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.33-35.56 บาท/ดอลลาร์
"บาททรงตัวช่วงเช้าก่อนที่จะอ่อนค่าตามภูมิภาคในช่วงบ่าย เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า ประกอบกับมี flow ไหลเข้า มา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 35.35-35.60 บาท/ดอลลาร์
"คืนนี้มีประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายตัว โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาดีซึ่งจะเป็นแรงหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า ขึ้นไปอีก" นักบริหารเงิน กล่าว
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.61/64 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 108.97 เยน/เดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1323/1326 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1314 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,406.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด, +0.64%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 645.36 ลบ.(SET+MAI)
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2559 เพิ่มขึ้น
เป็น 2.8% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 2.5% หลังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานตัว
เลข GDP ของไทยในไตรมาส 1 ปี 2559 ขยายตัว 3.2%YOY (เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า) หรือเติบโต 0.9% หากเทียบ
กับไตรมาสก่อนแบบปรับฤดูกาล
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้มอบนโยบายแก่กรรมการผู้แทนกระทรวงการคลัง ในคณะกรรมการรัฐ
วิสาหกิจ ปรับเปลี่ยนบทบาทของกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active Shareholder) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อทำให้รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการ
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่อย่างยั่งยืน รวมทั้งให้บริการสาธารณะกับประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
- คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติจะจัดให้มีการประมูลใบอนุญาต
ให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ซึ่งกำหนดให้ยื่นซองประมูลในวันพรุ่งนี้
(18 พ.ค. 59)
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดในปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 1.1
ล้านคน ขยายตัว 24.4% ดีขึ้นจากที่หดตัว 45.0% ในปี 58 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียจะยังอยู่ระดับต่ำกว่าปี 57 เนื่องจาก
เศรษฐกิจของรัสเซียที่คาดว่าจะยังชะลอตัวในปีนี้ ขณะที่คาดว่าจะสร้างรายได้สู่ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องคิดเป็นมูลค่าประมาณ
90,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.0% จากที่หดตัว 39.2% ในปี 58
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เผยการบริโภคขั้นสุดท้ายมีสัดส่วน 84.7% ของการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาส
แรก ซึ่งบ่งชี้ว่าความพยายามของรัฐบาลจีนในการผ่อนคลายการพึ่งพาการค้าและการลงทุนนั้นกำลังประสบผล โดยมีสัดส่วนการลงทุน
ด้านทุนอยู่ที่ 35.8% ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการสุทธิมีสัดส่วนลดลง 20.5% ขณะที่สัดส่วนของการบริโภคพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จาก 66.4% ที่ทำไว้ในช่วงสิ้นปี 2558 โดยเศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.7% ในไตรมาสแรกของปี 2559 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็น
อัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกเมื่อต้นปี 2552 แต่ด้วยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสในเดือนมี.ค.และเม.ย.ได้
จุดประกายความหวังว่า เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้
- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เผยผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ขยายตัวขึ้น
3.8% จากเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการทบทวนขึ้นจากระดับ 3.6% ในการรายงานเบื้องต้น
กับการประเมินเบื้องต้นที่ 96.6
- นายอิเบะ คาชิควู รมว.ทรัพยากรปิโตรเลียม ไนจีเรีย เผยกลุ่มคนร้ายบุกโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันดิบในเขตไนเจอร์
เดลตา ส่งผลให้ท่อส่งน้ำมันได้รับความเสียหาย และการผลิตน้ำมันต้องชะลอตัวลง โดยการผลิตน้ำมันดิบปรับตัวลงจากระดับ 2.2
ล้านบาร์เรลต่อวัน เหลือเพียง 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ดึงเม็ดเงินออกจากตลาดทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านหยวน (3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้เพื่อ
สร้างความเชื่อมั่นว่าปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 5 หมื่นล้าน
หยวนเข้าสู่ระบบธนาคาร ผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7 วัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่
ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.25% ซึ่งเมื่อหักสัญญา
ขายคืนมูลค่า 7 หมื่นล้านหยวนที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันนี้แล้ว สรุปได้ว่าแบงก์ชาติจีนได้ระบายเงินออกจากตลาดทั้งสิ้น 2 หมื่นล้านหยวน
- ผู้นำด้านการเงินของสมาชิกกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) จะร่วมหารือประเด็นมาตราการใน
การรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการหาทางป้องกันและหลีกเลี่ยงการเลี่ยงภาษีที่สืบเนื่องมาจากการรั่วไหลของ
ปานามา เปเปอร์ส ในวันศุกร์นี้ ที่เมืองเซนได ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]