นายปิยะพันธ์ วงศ์ยะรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตสื่อความรู้ด้านการลงทุนและการพัฒนาตนเอง กล่าวภายในงานเสวนา"ทางรอดคนไทย ในยุควิกฤตดอกเบี้ยต่ำ"ว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ พันธบัตร ตราสารหนี้ และหุ้นพื้นฐานดีที่มีปัจจัยแวดล้อมปัจจุบันสนับสนุน เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยในยุคดอกเบี้ยต่ำ
นายปิยะพันธ์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เริ่มเห็นแนวโน้มชัดเจนที่เป็นตัวเร่งให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการลงทุนเปลี่ยนไปมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ดอกเบี้ยที่ต่ำ 2.การลดการคุ้มครองเงินฝาก และ 3.ภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยากมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อกลุ่มผู้ที่มีรายได้ประจำหรือมนุษย์เงินเดือน และกลุ่มที่มีเงินฝากแล้วได้ผลตอบแทนดอกเบี้ยไม่คุ้มค่า จึงแสวงหาการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ
"กว่า 10 ปีที่อยู่ในวงการเห็นถึงพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงของนักลงทุนได้ชัดเจนมากทั้งในด้านจำนวนผู้สนใจที่เพิ่มขึ้น โปรดักส์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่นักลงทุนให้ความสนใจ รวมถึงค่าเฉลี่ยของอายุของนักลงทุนที่ลดลง และทุกคนที่มีความสนใจด้านการลงทุนต่างล้วนต้องการแสวงหาความรู้ และข้อมูลก่อนที่จะลงทุน ซึ่งจะต่างจากอดีต"นายปิยะพันธ์ กล่าว
ในยุคดอกเบี้ยต่ำขณะนี้ มองว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือคอนโดมิเนียมถือเป็นทางเลือกที่ดี และน่าสนใจ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่อยู่ใจกลางเมืองที่ราคาจะขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลดีต่อผลตอบแทนของการลงทุนในลักษณะซื้อมาขายไป อีกทั้งการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างพันธบัตร, ตราสารหนี้ เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงของการลงทุนในช่วงวิกฤต
ขณะที่สินทรัพย์ที่ควรหลีกเลี่ยง คือ สินทรัพย์ที่มีความหวือหวา และการลงทุนโดยมีผู้อื่นชักจูง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายในจังหวะแบบนี้
"หนึ่งในทางรอดในยุควิกฤตดอกเบี้ย คือ การลงทุน โดยนักลงทุนต้องหันกลับมาถามตัวเองก่อนว่า การลงทุนแบบไหนเหมาะสมกับตัวเรา ซึ่งมองการลงทุนในหุ้น ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีอยู่ เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง และสามารถซื้อ-ขาย ได้ตลอดเวลา"นายปิยะพันธ์ กล่าว
นายปิยะพันธ์ ยังแนะนำการลงทุนในหุ้นพื้นฐานที่น่าจะให้ผลตอบแทนดี คือ กลุ่มสื่อสารที่ได้รับผลบวกจาก 4G จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเชื่อมต่อกันในโลกออนไลน์ 24 ชั่วโมง ทำให้กลุ่มโอเปอร์เรเตอร์มีความน่าสนใจอย่างมาก หากราคาปรับตัวลงก็น่าจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ และกลุ่มธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีหรือมีความเกี่ยวข้องกับการออนไลน์
รวมถึงกลุ่มธุรกิจสุขภาพ การรักษาพยาบาลที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมองว่าในอนาคตจะมีการเติบโตอย่างมาก
"ในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ เราทุกคนจำเป็นต้องลงทุน โดยต้องถามตัวเองก่อนว่าเราเหมาะสมกับการลงทุนแบบไหน และหาความรู้ก่อนที่จะเริ่มลงทุนทุกครั้ง ซึ่งเรามองว่าหุ้นก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีจากที่มีสภาพคล่องสูง และเราเชื่อว่ากลุ่มที่จะสร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอ คือ กลุ่มสื่อสาร ,กลุ่มที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี และกลุ่มสุขภาพ ขณะที่มองว่าการเป็นโซเชียลเอ็นเตอร์ไพร์ซน่าจะมีความยั่งยืนถาวรในอนาคต"นายปิยะพันธ์ กล่าว
ด้านนายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด ในเครือทูมอร์โรว์ กรุ๊ป กล่าวว่า นักลงทุนหน้าใหม่ให้ความสนใจการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เห็นได้จากยอดนักลงทุนที่มีความสนใจเข้ามาเป็นสมาชิกรวมกว่า 30,000 ราย และเชื่อว่าปริมาณยังน่าจะขยายได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น บริษัทจะใช้กลยุทธ์ผ่านการสร้างโอกาสและลู่ทางในการลงทุนให้เกิดขึ้นผ่านฐานข้อมูลของพร็อพทูมอร์โรว์ ด้วยการร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ ออกแบบพัฒนาแพคเก็จการตลาดและการขายตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งนอกจากจะช่วยสนองตอบความต้องการของกลุ่มนักลงทุนของบริษัทแล้ว ในมุมของผู้ประกอบการเจ้าโครงการก็สามารถระบายสินค้าออกสู่ตลาดได้ดีขึ้นด้วย
ขณะที่นางสาวพลอย ลุมทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ยูทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ยูทูมอร์โรว์ วางเป้าหมายที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง “คนรุ่นใหม่”กับ“นักลงทุนคุณภาพ” โดยเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการลงทุนให้คนรุ่นใหม่ เพื่อให้มีโอกาสได้ค้นหาตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยว่าจะลงทุนกับอะไรต่อไปในอนาคต และได้วางแผนที่จะดำเนินการเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการดำเนินงานในระยะต่อไปในระยะยาว
นายปกรณ์ พงศ์วราภา ประธาน บมจ.จีเอ็ม มัลติมีเดีย กรุ๊ป ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท อีเว้นท์ทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงปลายปี 59 ทูมอร์โรว์ กรุ๊ป จะมีการจัดมหกรรมการลงทุนระดับชาติ ซึ่งรวบรวมตลาดการลงทุนที่ได้รับความนิยมทุกประเภทที่มีอยู่ในประเทศไทยมาไว้ในงานเดียว รวมทั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนด้านต่างๆ พร้อมเวทีการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องโดยวิทยากรมืออาชีพ