พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวในงานสัมมนา"อนาคตพลังงานทางเลือกในยุคน้ำมันราคาถูก"ในหัวข้อ"นโยบายและทิศทางของภาครัฐในการส่งเสริมพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก"ว่า มีโอกาสที่จะปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่ตามแผนภายในปี 79 จะมีการผลิตทั้งสิ้นราว 19,000 เมกะวัตต์(MW) ซึ่งรวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำขนาดใหญ่ด้วย แต่หากไม่นับรวมการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำขนาดใหญ่จะคงเหลือราว 16,778 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีการตอบรับซื้อไฟฟ้าซึ่งรวมถึงมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวม 9,041 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้มีการผลิตเข้าระบบแล้ว 6,009 เมกะวัตต์
เนื่องจากในอนาคตคาดว่าจะมีเทคโนโลยีที่จะทำให้การผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนมีต้นทุนต่ำลงจนสามารถแข่งขันกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลได้ โดยเฉพาะหากมีการตั้งโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ และกังหันลมในไทย รวมถึงแบตเตอรี่เพื่อใช้ในระบบสะสมพลังงาน (Energy Storage) มีราคาถูกลงอย่างต่อเนื่องจากในช่วง 7 ปีราคาลดลงปีละ 30%
"หากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนลดต่ำลงก็อาจจะเพิ่มเป้าหมายการผลิตเพิ่มขึ้น และหันไปลดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิสแทน"พลเอกอนันตพร กล่าว
ด้านนายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อาจจะสามารถเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานขยะชุมชนได้อีกราว 100 เมกะวัตต์เท่านั้น จากเป้าหมายจะมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะทั้งหมด 500 เมกะวัตต์ภายในปี 79 เนื่องจากปัจจุบันมีการตอบรับซื้อไฟฟ้ารวมถึงมีสัญญา PPA รวมแล้วประมาณ 400 เมกะวัตต์
ขณะที่คาดว่าจะมีผู้ผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนได้จริงเพียง 100 เมกะวัตต์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มบมจ.ทีพีไอโพลีน(TPIPL) ส่วนที่เหลืออีก 300 เมกะวัตต์ที่ได้ PPA ไปแล้วจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ก่อนหน้านั้น คาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้จริงภายในกำหนด ซึ่งกลุ่มนี้ก็จะมี PPA ที่ทยอยหมดอายุลง
"เรามีการประชุม 4-5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะทำอย่างไรไม่ให้คนที่ได้ PPA ไปแล้วต้องเอาไปทำจริงไม่ใช่เอาไปเร่ขาย ขยะชุมชนทั้งหมด 500 เมกะวัตต์ คิดว่าที่ผลิตจริงมีแค่ 100 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือ 300 เมกะวัตต์น่าจะเป็นพวกที่ไม่ได้ทำจริง"นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย เขื่อว่า การผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนจะเกิดขึ้นได้ในท้ายที่สุดแล้ว เพราะรัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ โดยล่าสุดได้แก้ปัญหาผังเมืองแล้ว และอยู่ระหว่างการปลดล็อค พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) โดยจะมีการแก้ไขพ.ร.บ.รักษาความสะอาดของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะมีการระบุว่าการที่ภาครัฐร่วมทุนกับเอกชนเพื่อดำเนินการจัดการขยะก็จะถือว่าไม่เข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ
ขณะที่การแก้ไข พ.ร.บ.รักษาความสะอาดได้ผ่านความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และคาดว่าจะผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ใน 1-2 เดือนข้างหน้า