ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.28/30 แนวโน้มยังแข็งค่า จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 6, 2016 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.28/30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อจากช่วงเช้าที่เปิด ตลาดที่ระดับ 35.38 บาท/ดอลลาร์

ช่วงบ่ายเงินบาทแข็งค่าต่อจากช่วงเช้า หลังจากที่ตลาดเงินและตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิดทำการ โดยรับข่าวจากตัวเลขการ จ้างงานของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าสุดในรอบ 5 ปี และนักลงทุนต่างรอฟังถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ว่าจะมีมุมมองหรือส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร

"ช่วงบ่ายบาทแข็งค่าขึ้น เพราะตลาดทางฝั่งยุโรปเริ่มเปิดทำการ และรับข่าวตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ออกมาไม่ค่อย ดี รวมทั้งตลาดรอติดตามการแถลงของเจนเน็ต เยลเลน คืนนี้ ว่าส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยอย่างไร" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20 - 35.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.14/15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.77/82 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1340/1343 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1343/1347 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,443.42 จุด เพิ่มขึ้น 6.99 จุด (+0.49%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 41,976 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 749.97 ลบ.(SET+MAI)
  • นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าว
สุนทรพจน์ในวันนี้ โดยประธานเฟดจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และนโยบายอัตราดอกเบี้ย การที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลง
ของนางเยลเลนในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นการแสดงความเห็นของประธานเฟด ภายหลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาค
เกษตรของสหรัฐที่ต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี รวมทั้งเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากที่เฟดปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
  • นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน ยังคงคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะปรับ
ตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อเปิดทางให้เฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร
เดือน พ.ค.จะออกมาน่าผิดหวังก็ตาม
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าตลาดมูลค่า 4 หมื่นล้านหยวน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในวันนี้ เพื่อบรรเทาสภาพคล่องที่ตึงตัว โดยดำเนินการผ่านทางข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7
วัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต สำหรับอัตราผลตอบแทน
ในวันนี้ อยู่ที่ 2.25% ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับเมื่อวันศุกร์ที่ได้มีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ 4 หมื่นล้านหยวน
  • กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนเม.ย.ร่วงลง 2% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่ง
มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.6% สะท้อนให้เห็นว่าอุปสงค์จากประเทศต่างๆ นอกกลุ่มยูโรโซนอ่อนแอลง
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เหตุกังวล
เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากข้อมูลการจ้างงานซบเซา ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 343 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตรา
ดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ -0.125% ลดลง 0.020% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปี ส่งมอบเดือน มิ.ย เพิ่ม
ขึ้น 0.18 จุด แตะระดับ 152.17 ที่ตลาดหุ้นโอซาก้า

โบรกเกอร์ เปิดเผยว่า การซื้อขายซบเซา เนื่องจากนักลงทุนรอดูความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งหน้า รวมถึงรอผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์หน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ