นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รองประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา เสนอแนะมาตรการและกลไกปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบใน กมธ.วิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า คณะอนุ กมธ.ตรวจสอบพบข้อมูลความไม่โปร่งใสในการทำสัญญาโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างบริษัท คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด กับ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.
ทั้งนี้ อนุ กมธ.พบว่าในช่วงการยื่นแบบแสดงคุณสมบัติผู้เสนอราคา (TOR) มีเพียง 5 บริษัทที่เข้าร่วมประกวดราคา ซึ่งไม่มีรายชื่อของบริษัท คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เข้าร่วมประกวดราคาด้วย โดยผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท คิงพาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด แต่ปรากฏในวันเซ็นสัญญาโครงการเมื่อวันที่ 25 มี.ค.48 ดำเนินการโดยบริษัท คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด
"เป็นการผิดเงื่อนไขการประมูลอย่างชัดเจน เพราะบริษัทดังกล่าวไม่ได้ร่วมยื่นทีโออาร์แต่แรก และยังเพิ่งมาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 23 มี.ค.48 หรือสองวันก่อนการลงนามสัญญา ซึ่งเป็นการขัดทีโออาร์ชัดเจน เพราะมีการระบุว่าบริษัทที่เข้าร่วมประมูลจะต้องมีประสบการณ์ด้านการบริหารพัฒนาพื้นที่ หรือประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4,000 ตารางเมตรในปีหนึ่งปีใด รวมทั้งมียอดรายได้จากการขายหรือเชิงพาณิชย์ปีหนึ่งปีใดไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ตลอดจนต้องมีประสบการณ์บริหารงานดังกล่าวไม่น้อยกว่า 5 ปี" นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย กล่าวว่า การที่บริษัท คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด เพิ่งมาจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทก่อนลงนามเซ็นสัญญา 2 วัน ถือว่าไม่มีประสบการณ์การทำงานอะไรมาเลย จึงขัดเงื่อนไขในทีโออาร์ ดังนั้น การลงนามดังกล่าวจึงเป็นโมฆะ ซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 หลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้ที่ประชุม กมธ.วิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สปท.ทราบต่อไป