นายกฯ เปิดงาน CLMVT Forum หวังใช้เป็นโอกาสขยายความร่วมมือภาครัฐและเอกชน สร้างจุดแข็งก่อนก้าวสู่ตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 16, 2016 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ CLMVT: Prosper Together ในการเป็นประธานเปิดงาน CLMVT Forum 2016 ว่า จุดประสงค์ของการจัด CLMVT Forum 2016 ในครั้งนี้เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็ง ศักยภาพ และสร้างเครือข่ายระหว่างผู้นำทางภาครัฐและภาคเอกชนของทั้ง 5 ประเทศ CLMVT ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และ ไทย โดยมุ่งหวังให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก

รัฐบาลไทยและ CLMV จะใช้โอกาสนี้ในการขยายช่องทางการติดต่อ แลกเปลี่ยนความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนในภูมิภาคให้มากขึ้น ทั้งด้านการผลิตและพันธมิตรการค้าในกลุ่มสินค้าและบริการที่ CLMVT เห็นว่าสามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตที่เกื้อกูลกันในภูมิภาคได้ โดยเฉพาะในกลุ่มพื้นที่ที่ติดกันและเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โดยเติมเต็มจุดแข็งของกันและกัน เพื่อยกระดับคุณภาพและมูลค่าเพิ่มของสินค้าและบริการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการและมาตรฐานสากลร่วมกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า CLMVT ร่วมกับอีก 5 ประเทศในอาเซียนจะกลายเป็นฐานการตลาดที่ใหญ่ และหากรวมกับจีนและอินเดีย ก็จะเป็นกลุ่มที่มีฐานการตลาดและประชากรใหญ่ที่สุดในโลก คือกว่า 3,000 ล้านคน ทุกประเทศต้องเริ่มสร้างความเจริญเข้มแข็งจากภายใน ก่อนจะก้าวไปสู่ตลาดโลก ซึ่งการหารือร่วมกันในวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา และการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เพื่อก้าวไปสู่ความเจริญก้าวหน้าร่วมกันอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค และสามารถเชื่อมต่อห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค ซึ่งภาคเอกชนถือเป็นหัวใจสำคัญ ภาคธุรกิจของ CLMVT นั้นมีบทบาทในหลายอุตสาหกรรม ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ อีกทั้งยังมีความตกลงของภาครัฐรองรับ เช่น ACMECS GMS และ BIMSTEC ซึ่งทุกประเทศสามารถต่อยอดความร่วมมือให้ลึกซึ้งมากขึ้นในระดับภาคเอกชนและประชาชน โดยเฉพาะในอนุภูมิภาคตามแนวพื้นที่ที่เชื่อมต่อกัน โดย CLMVT มีที่ตั้งอยู่ระหว่างจีนกับอินเดียที่มีประชากรมากเป็นลำดับ 1 และ 2 ของโลก ซึ่งสามารถใช้ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์นี้มาเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ CLMVT ยังมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และมีพื้นที่ทำการเกษตรที่สมบูรณ์จำนวนมาก โดยการยกระดับคุณภาพและมูลค่าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะสินค้าเอกลักษณ์อย่างผลิตภัณฑ์ Geographical Indication หรือ GI เช่น ข้าว กาแฟ ชา และการสนับสนุนภาคเกษตรและเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นให้เข้มแข็ง CLMVT ยังมีจุดเด่นด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประชาชน ทำให้มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการผลิตสินค้าเกี่ยวเนื่องกัน ที่สามารถขยายต่อไปได้ และจะเป็นประโยชน์ร่วมกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ