กสทช.- ธปท.จับมือคุ้มครองดูแลความปลอดภัยผู้ใช้บริการ Mobile Payment ทำธุรกรรมการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 17, 2016 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(ประธาน กสทช.) กล่าวว่า กสทช.และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อร่วมกันศึกษาแนวทางการกำกับดูแลบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย (Mobile Payment) ซึ่งปัจจุบันการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการร้านค้าต่าง ๆ ได้พัฒนารูปแบบการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการใช้งาน

"กสทช.เห็นว่า การให้ความรู้อย่างถูกต้องต่อผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย จะช่วยให้ผู้ที่นิยมใช้บริการ Mobile Payment ใช้บริการได้อย่างปลอดภัย"

ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ ดังกล่าวธปท. และ กสทช. จะมีโครงการความร่วมมือกันในหลายด้าน ได้แก่ การยกระดับความปลอดภัยด้าน CyberSecurity และการพิสูจน์ตัวตนผู้ใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งจะช่วยปิดช่องโหว่ที่มิจฉาชีพจะสวมรอยเป็นเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่และนำไปใช้ในการฉ้อโกงธุรกรรมทางการเงินและยกระดับความปลอดภัยในการใช้บริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ขึ้นไปอีกระดับหนึ่งรวมถึงจะสนับสนุนให้มีการใช้บริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ “พร้อมเพย์ – PromptPay" ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แผนยุทธศาสตร์ National e-Payment และจะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจโอนเงินได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นโดยใช้เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่และเลขประจำตัวประชาชนของผู้รับเงินแทนการระบุเลขที่บัญชีเงินฝาก

"ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Banking) มีอัตราเติบโตสูง โดยเติบโต 73% ต่อปี มีจำนวนผู้ใช้ราว 10 ล้านคน ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องได้แก่สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ เช่น แอปเปิ้ล ซัมซุง หรือผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ให้ความสำคัญเรื่อง Mobile Banking ดังนั้น ธปท.ในฐานะผู้กำกับดูแลธุรกิจทางการเงินก็ตระหนักว่าต้องเข้ามาดูแล ให้ข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้ได้มากสุด โดยเฉพาะประชาชนทึ่อยู่พื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงบริการ " ผู้ว่าธปท.กล่าว

นอกจากนี้ทั้งสององค์กรจะผสานแนวทางการกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ใช้บริการชำระเงินให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปและมีการคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต(DigitalLiteracy) เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันรวมถึงการใช้บริการทางการเงินและการชำระเงินรู้วิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการ และส่งเสริมการใช้บริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้แพร่หลายมากขึ้น

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขา กสทช.กล่าวว่า กสทช.จะสนับสนุน ธปท. ทั้งการใช้บริการ พร้อมเพย์ หรือ Any ID โดยการลงทะเบียนการใช้ซิม เพื่อให้เกิดตวามปลอดภัย และคาดว่า ในธ.ค.นี้จะสามารถใช้ลายพิมพ์มือ (Finger Print) เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะใช้ได้ทั้งระบบพรีเพดและ โพสต์เพด

ขณะเดียวกัน ความนิยมใช้บริการ e-Wallet ที่ผู้ให้บริการอย่างบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือ ดีแทค และบมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีบริการการชำระเงินได้เองอยู่แล้ว โดยมีมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านบาท/เดือน

"กสทช.เห็นว่าจำเป็นต้องเข้ามาดูแลสำคัญ ตอนนี้ความปลอดภัยเป็นเรื่องเร่งด่วน เราจะร่วมมือและช่วยคุ้มครองประชาชน" เลขาธิการ กสทช.กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ