(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.24/26 อ่อนค่าจากวานนี้ หลังดอลล์แข็งขานรับถ้อยแถลง"เยลเลน"-จับตาผล Brexit

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 22, 2016 11:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.24/26 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.17 บาท/ดอลลาร์

เหตุที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลง เป็นผลจากที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากที่นางเจเน็ต เยเลน ประธานธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจในรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา สหรัฐฯ โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย หากในท้ายสุดแล้วผลประชามติจะออกมาว่าอังกฤษจะแยก ตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แต่อย่างไรก็ดีจะติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ส่วนปัจจัยในประเทศจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ คาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ในระดับ เท่าเดิมที่ 1.50% เพราะขณะนี้คงต้องรอดูทิศทางจากการทำประชามติของอังกฤษประกอบด้วย

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20-35.40 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.2558 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (21 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.27186% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (21 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.42472%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.50/53 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.46 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1240/1245 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1330 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2030 บาท/
ดอลลาร์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประชุมในวันนี้เพื่อพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดยังคาด
การณ์ว่า กนง.รอบนี้จะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 1.50%
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 59 งบกลาง
รายงานค่าใช้จ่ายเสริมสร้างความเข้มแข็งและความก้าวหน้าของประเทศตามแนวทางปฏิรูป วงเงิน 22,300 ล้านบาท จากวงเงิน
ทั้งหมด 32,661 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับ 14 กระทรวง 39 หน่วยงาน เพื่อนำมาทำโครงการสำคัญของรัฐ เช่น โครงการระบบ
ชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพย์เม้นท์ โครงการส่งเสริมการสร้างผู้ประกอบการใหม่ หรือสตาร์ทอัพ โครงการก่อสร้าง
ระบบคมนาคมขนส่ง การแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย การส่งเสริมตลาดซีแอลเอ็มวี การค้าออนไลน์เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถ
ทางแข่งขันของประเทศเพิ่มขึ้น
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวใน
ประเทศไทยช่วงไตรมาส 2 ปี 2559 ว่าอยู่ที่ระดับ 97 โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 95 ทั้งนี้มีนักท่องเที่ยว
ต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยประมาณ 7.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.56% จากช่วงเดียวกันของปี 2558
  • กระทรวงการคลังรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบถึงความก้าวหน้าการดำเนินมาตรการสนับสนุน
วิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) ว่า ขณะนี้มีเอกชนรายใหญ่ ได้แก่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น บริษัท อินทัช และกองทุน 500 Tuk
Tuks สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในกองทุนร่วมทุนกับธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ธนาคารกรุงไทยและกองทุนวายุภักษ์ตั้งขึ้นโดยมีวงเงิน 3,000
ล้านบาท
  • นายจอร์จ โซรอส ซึ่งได้รับฉายาพ่อมดการเงินออกมาเตือนว่า การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ
หรือเบร็กซิต อาจนำไปสู่การเทขายเงินปอนด์และทำให้ค่าเงินปอนด์ดิ่งหนัก 15-20% อยู่ที่ต่ำกว่า 1.15 เหรียญสหรัฐ/ปอนด์ จาก
ปัจจุบันที่ 1.46 เหรียญสหรัฐ/ปอนด์ หรือมีมูลค่าใกล้ 1 ยูโร จนถึงขั้นเป็นวันศุกร์ทมิฬ (แบล็ก ฟรายเดย์)
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มิ.ย.) ขาน
รับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แม้อังกฤษ
ถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU)
  • นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบ
ครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐ โดยได้ระบุว่า เฟดจะจับตาสถานการณ์การลงประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับ
การถอนตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

สิ่งใดก็ตามที่ชาวอังกฤษตัดสินใจ จะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกี่ยวข้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งหาก อังกฤษตัดสินใจถอนตัวจาก EU ตลาดก็จะอยู่ในบรรยากาศของการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง และหันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะส่งผล ให้ดอลลาร์ และสกุลเงินปลอดภัย เช่น ฟรังก์สวิส และเยน ทะยานขึ้น แต่ประธานเฟดไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถด ถอย โดยมีสาเหตุจากการที่อังกฤษถอนตัวจาก EU

พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัด ระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญา
น้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติในอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้
เพื่อชี้ชะตาว่าชาวอังกฤษจะเลือกอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 52 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 48.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำ มันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 50.62 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ