ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.20/22 แกว่งแคบจากช่วงเช้า ไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.15-35.30

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 6, 2016 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 35.20/22 บาท/ดอลลาร์ จาก ตอนเช้าที่เปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.22/24 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทดสอบ High 35.27 บาท/ดอลลาร์ และทดสอบ Low 35.19 บาท/ดอลลาร์

"ระหว่างวันเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา เช้าต่ำสุด แล้วก็ขึ้นไป แล้วก็ลงมาปิดเท่าตอนเช้า...ระหว่างวันมีแรงซื้อ แต่เหมือน แนวต้าน 35.30 ยังเป็นแนวต้านสำคัญ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.15-35.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.45 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 100.84 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1059 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1040 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,452.59 จุด เพิ่มขึ้น 2.52 จุด, +0.17% มูลค่าการซื้อขาย 49,775.17 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,203.61 ลบ.(SET+MAI)
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบ
ประมาณ 2559 อยู่ที่ 1.79 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 7.84 หมื่นล้านบาท โดยมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ในปีงบ
ประมาณ 2559 ได้ตามเป้าหมายที่ 2.33 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) ระบุว่า จากผลการศึกษาของ Moody’s Analytics ใน
เรื่อง e-Payment ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่าหากประเทศไทยมีการใช้สัดส่วน e-Payment เพิ่มขึ้น 1% จะทำให้
GDP เพิ่มขึ้น 0.02% ซึ่งเมื่อรวมกับที่ศูนย์วิเคราะห์ฯคาดว่าสัดส่วนการใช้ e-Payment ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50% ของการชำระเงินโดย
รวมจะเพิ่มขึ้นปีละ 5% ดังนั้น การใช้ e-Payment จะผลักดันให้ GDP สูงขึ้นเป็นมูลค่า 13,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 0.1%
  • ศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นทองคำในเดือน ก.ค.59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 7.77 จุด หรือเพิ่มขึ้น
12.83% อยู่ที่ระดับ 68.34 จุด สูงกว่าระดับ 50 จุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากค่าเงินบาทที่ยังมีทิศ
ทางอ่อนค่าและแรงซื้อเก็งกำไรที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยลบจากทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่า

ขณะที่ มองว่า ราคาทองคำในปีนี้มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 24,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากแนว โน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลผลกระทบของการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพ ยุโรป (Brexit) ที่อาจเริ่มก่อตัวขึ้นและอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของอังกฤษและเศรษฐกิจทั่วโลก

  • เงินปอนด์ยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องในการซื้อขายวันนี้ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 31 ปี ที่ระดับ 1.2798 ดอลลาร์ เนื่อง
จากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จนส่งผลให้หันไป
ซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  • นักวิเคราะห์ของสถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และเอบีเอ็น อัมโร ได้ปรับลดคาดการณ์สกุล
เงินหยวน อันเนื่องจากมาจากแรงกดดันหลังจากที่อังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงต่อ
เนื่องนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้
  • นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคง
แข็งแกร่ง แม้ว่าปัจจุบันตลาดการเงินมีความผันผวนอยู่บ้าง ซึ่งเป็นผลจากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์ หลังจากที่อังกฤษลงมติแยก
ตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit)
  • ธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับติดลบ 0.5% ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากต้อง

การประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ